ห้องที่ ๙ : ขุนท่องสื่อคนเก่า


          เอกองค์ทธรฐเจ้าจอมพล
รีบพยุหพหลโห่ครื้น
ผงคลีกรหลบบนบดเมฆ มัวแฮ
เสียงรถเสียงคชพื้นภพด้าวดินไหว
          นกกระเตนรังเติบใต้ปัถพี
ดาลเหตุดลสกุณีเร่าร้อน
ผินถาถาบโถมตีธงรถ ไชยแฮ
บินผาดผันผายย้อนผ่านซ้ายคระไลยขวา
          พระเหนพิหคเร้าลางทรง ตริเอย
หลากกระเตนตีธงถาบแคล้ว
เสียวทรวงพระสุดสงไสยเหตุ ไฉนนอ
ตรัสเรียกโหรมาแล้วเล่าแจ้งประจักษ์ถาม
          โหรารับสั่งน้อมนับยาม
สอบพไชยสงครามเคราะห์ต้อง
ทูลเหตุพิหคลามลางศึก มีนา
แต่พระเกียรดิจักป้องปัดเสี้ยนเศิกไกษย
          ทธรฐทราบถี่ถ้อยทำนาย
ทรงพระศรวรชวนสายสวาศยิ้ม
พลางสั่งพยุหผายผันรีบ จรแฮ
เสียงทศโยธีปิ้มป่าปี้ป่นฉลาย
          รามสูรอสุรร้ายเริงทนง
ถวิลจักประภาษดงดับเศ้รา
ทรงเครื่องทิพยเสร็จทรงขวานเพชร ศรแฮ
เหาะรีบลุป่าเข้าเฃตรแคว้นมิถิลา
          ชมสัตวจัตบาทห้วยเหวผา
ยินสนั่นพลคลาครั่นครื้น
มารจรจวบพะลากรราพ ถามเฮย
จอมทับนามใดพื้นมนุษยน้อยนครไหน
          ฝ่ายทหารกองน่าได้สดับคำ ถามแฮ
ยลยักษยืนกำยำขยับเยื้อง
ที่กล้ากล่าวตอบสำแดงราช รามเอย
ไปยกศิลป์ภิเศกเบื้องบาทได้พระนางคลา
          พระยายักษพิโรธแค้นขบกราม
เหม่เหม่มึงบอขามแข่งอ้าง
เราคือพระกาลตามตัดชีพ แลนา
กระทืบบาทมาดมล้างไล่ร้นพลตลุย
          ถึงรถเหนราชทั้งสององค์
ขุนราพพิศยุพยงอยาดฟ้า
เหวยมนุษยใยทนงนามเช่น เราฮา
ภานาฎผาดผ่านหน้าจักมล้างชิงสมร
          ทรงสังข์ฟังราพก้อเกินกาย
ตรัสว่ามารอย่าหมายมุ่งท้า
เราคือพระนารายน์องค์อวะ ตารแฮ
มาปราบอสูรเสี้ยนหล้าชาติร้ายแรงคนอง
          รามสูรสดับเกรี้ยวเกริกกัง หรรเฮย
เทพประชุนเรายังจับเขวี้ยง
แกว่งขวานเพชร์ผาดผังแผลงเดช มืดแฮ
เปนอัสนีปลาบเปรี้ยงเปรื่องครื้นคำรน
          สี่นางกระษัตริย์ว้าหวีดเสียง
สนมนาฎอิกพลเพียงพ่างม้วย
ทธรฐประคองเคียงปลอบนาฎ สามเฮย
ว่าลูกเรามาด้วยเดชล้ำฤทธิมาร
          จักรกฤษณ์กล่าวปลอบห้ามลักษมี
อนุชอย่าเกรงไพรีราพแกล้ว
เรียมจักประหารชีวาแทตย์ เองแม่
พลางลั่นพาลจันทแผ้วผ่องแจ้งเหนอสูร
          ขุนราพยลสาตรแก้เดชมาร
พิโรธเพียงเพลิงกาลจ่อจิ้ม
จับศรพาดสายทยานแผลงตอบ ไปเฮย
ศรว่องเวียนรถปิ้มปิดไว้ในวง
          พระเหนศิลป์อสุรร้ายรอบราช รถเอย
ทรงจับอัคนีวาตหน่วงน้าว
แผลงเปนจักรเพชร์ฉกาจกำจัด ศรแฮ
โดยฤทธิมหิทธิห้าวหักได้ดังประสงค์
          ขุนราพพิโรธเขวี้ยงขวานราญ รบเฮย
ไล่จักรพระอวะตาลต่อคว้าง
ราเมศรพระเหนหาญฮึกเชี่ยว ชาญแฮ
พลายวาตพระแผลงมล้างแหลกสิ้นฤทธิขวาน
          อสูรเสียอาวุธร้ายแรงพยศ
ดวงเนตรดุจเพลิงกรดกราดเกรี้ยว
แผดสิงหนาทแทบทศทิศล่ม แหลกฮา
ทลึ่งจับงอนรถเลี้ยวลากง้างกลางแปลง
          นารายน์ลงรบด้วยขุนมาร
ตนต่อตนต่างหาญต่อห้าว
ต่างรุกต่างรบรานเริงเดช
ยักษพลาดทรงศรน้าวหวดต้องมารกระเดน
          ราพร่ำกำสรดสท้านฤทธีรอน
เหลือบเนตรจวบสี่กรก่องแก้ว
ทรงสังข์จักรคทาศรสุรศัก ดาแฮ
ทราบว่านารายน์แล้วราพง้อขอปราณ
          พระเผยพจนาดถ์แจ้งขุนมาร
เราจักปราบแต่พาลเผ่ากล้า
ซึ่งท่านฮึกหักหาญเหนโทษ ตนแฮ
จงพิทักษโลกย์หล้าอยู่ด้วยสัตย์ธรรม
          กุมภัณฑ์รับสัตวแล้วอัญชลี ทูลเอย
ศิวประสิทธิ์ศรตรีเมฆได้
ไอยกาดับชีวีตกอยู่ ข้านา
ข้าบาทถวายศิลบ์ไว้แทบใต้บทมาลย์
          พระรับศรราพน้อมนบจร
เหาะรีบลับอำพรเรื่อยริ้ว
พระโยนพระแสงศรฝากพิ รุณแฮ
เกียรติเกริกเทพนบนิ้วสนั่นอื้ออวยไชย
          แปดกระษัตรอีกทั้งกำนัน นางเอย
อำมาตย์แลพลขันธ์กล่าวถ้อย
ชมเกียรดิจักรกฤษณ์มหันต์เหนประจักบ์ เนตรนา
ทธรฐสั่งพลคล้อยเคลื่อนเข้าอยุทธยา
          ถึงเกยกระษัติยเก้าเบิกบาน กมลเอย
เสด็จสู่ปรางค์สุริการก่องแก้ว
ทธรฐพระราชทานสมบัติ พร้อมเอย
แด่สุณิสาแล้วธิราชเจ้าจิตรเขษม
          พระดำรัสสั่งให้ราชบุตร
พระพรตพระสัตรุตกลับด้าว
สองรับสั่งแสนสุดโสรมนัศ
ลาเจ็ดกระษัตริยท้าวเสดจขึ้นรถทรง
          พลางสั่งให้เคลื่อนคล้อยคลายพลา กรเอย
ม้ารถคชพลคลาโห่สท้าน
จากกรุงอยุทธยาลุพนัศ พนมแฮ
ส่ำสัตวตื่นแตกผ้านเผ่นเต้าเตลิดหนี
          แรมรอนพยุหครื้นคัลไลย
ถับถั่นถึงกรุงไกยเกษยั้ง
รถเรียบเทียบเกยไชยชวนอนุ ชาเอย
จากรถกรดกางกั้งเสด็จขึ้นสถิตยสฐาน

จบห้องที่ ๙


  เนื้อความกล่าวถึงท้าวทธรฐพร้อมด้วยแปดกษัตริย์ยกขบวนพยุหยาตรากลับกรุงอยุธยาผ่านป่า พบรามสูรเหาะมาเที่ยวป่าในเขตกรุงมิถิลาและต่อสู้กับพระราม พระรามแผลงศรไปต้องรามสูร รามสูรเห็นพระรามเป็นพระนารายณ์ก็ถวายศรตรีเมฆซึ่งพระศิวะประทานให้อัยกาของรามสูร พระรามรับศรแล้วฝากไว้กับพระพิรุณ เมื่อเดินทางถึงกรุงอยุธยา ท้าวทธรฐให้พระพรตและพระสัตรุดกลับกรุงไกยเกษ

คำอภิธานศัพท์

คำศัพท์ คำอธิบาย
เทพประชุนเทพอรชุน เมื่อสู้รบกับอสูรเทพบุตรชื่อรามสูร ถูกรามสูรจับฟาดกับ เขาพระสุเมรุจนสิ้นชีพ
พลายวาตศรของพระราม แผลงเป็นลมพายุ บางทีเป็นฝน
พาลจันทศรของพระราม แผลงไปแล้วเกิดแสงสว่าง บางทีเป็นพายุฝน
อัคนีวาตศรของพระรามแผลงเป็นจักรแก้ว บางทีเป็นไฟ