ห้องที่ ๔ : หลวงฤทธิพลไชย


          พระวสิฐสวามิตรเยื้องยาตรา
นำพระลักษณรามาค่อยคล้อย
เข้าในมิถิลาลานเนตร เลงแฮ
แถววิถีใหญ่น้อยปราบพื้นภูมเสมอ
          ปราการประกอบแก้วผลึกลาย
หอรบนางจรัลรายรอบล้อม
เชิงเทินเกลี่ยกรวดทรายสีนาด อเนกนา
ประจุประจำป้อมทั่วทั้งวังวง
          สนุกนิ์สนานปานเปรียบด้าวแดนสวรรค์
ราบรื่นหนทางจรัลร่มไม้
เรือนราษฎร์อเนกอนันต์นับหมื่น แสนนา
แลกลาดตึกเก๋งใกล้เกลื่อนข้างทางจร
          แถวผลูดูพิฦกล้วนธงฉัตร
วายุแกว่งไกวสบัดโบกฟ้า
รายเรียงเรียบราชวัตรตรลอดลิ่ว
เพลินเนตรหลงแลช้าชื่นชื้นชวนชม
          เรียดทางสองข้างรวจรัฐยา
สาวหนุ่มพฤฒพราหมณานั่งร้าน
ขายแพรม่วงพัตราโหมดตาด
อัดตลัดผ้ายกก้านแย่งเกี้ยวกรวยเชิง
          บ้างขายเครื่องแก้วเลี่ยมลวดลาย
โคมกิ่งตะเกียงรายเรียบตั้ง
กระจกกระจ่างฉายฉากรูป ภาพนา
โต๊ะถาดทองขาวทั้งซ่อมช้อนจานชาม
          บางแห่งแต่งร้านเรียบเจริญตา
ขายเครื่องสุคนธารศเร้า
หอมตรลบอบนาษาสองกรษัตริย์ ท่านแล
เพลินพิศพลางไต่เต้าติดต้อยตามครู
          เลยเข้าทวาเรศชั้นปราการ ในแฮ
พิศเพ่งเลงราชถานทั่วพื้น
แสนสนุกนิ์ศุขสำราญนัคเรศ ท่านนา
ดูสง่างามคฤกครื้นทั่วทั้งราชถาน
          หอคอยลอยลิ่วห้องคัคณานต์
สูงแข่งเภราคารคู่ด้าว
ทิมแถวที่เทพยสถานสิงสถิตย เสถียรนา
ถึงถัดโรงทานท้าวอุทิศตั้งตามถนน
          โรงกรีโรงรถม้ามีครบ ครันแฮ
สนามคชปรลองรบเรียบพื้น
พิศเพียงอมรภพภูมภาค
แลโล่งตรลอดครื้นครึกล้ำสนามหลวง
          โรงทหารหัดฝึกซ้อมสัปยุทธ
คลังเครื่องสรรพอาวุธแต่งตั้ง
โรงปืนคาบผาชุดชนวนนก สับแฮ
ตึกใส่ดินดำทั้งมาดก้อนดินปสิว
          โอโถงโรงพักร้อนรโหถาน
ปูแผ่นศิลาลานลาดแผ้ว
ศาลาลูกขุนศาลสุรัศ วดีแฮ
โรงหล่อต่อคลังแก้วแกล่ใกล้คลังทอง
          ทิมดาบองครักษทั้งแปดกรม อยู่นา
หอพระสาตราคมปิดป้อง
โรงพักจัตุสดมภ์ดูสอาด เนตรนอ
ทิมดาบกรมวังห้องเครื่องทั้งทิมสงฆ์
          เรือนหลวงประเล่ห์แม้นวิมาน แมนเอย
ปราสาทรัตนกาญจน์ก่ำฟ้า
มุขลดสี่เหลี่ยมบานบังอวด อุไรแฮ
ลอยลิ่วแลเลิศห้ายอดเฟื้อยฟูโพยม
          พระปรัศอัฒโยคแก้วกาญจนา
เรืองรัตนมณฑิราอร่ามรุ้ง
โรงคัลราชสวภาคารเพริศ เพรานอ
มุขเด็จเด่นนาคสดุ้งประดับแก้วกนกแกม
          ตึกสนมตำหนักตั้งตรลอดแล
บงเบิกบานพระแกลทุกห้อง
รวบรูดวิสูตแพรผูกภู่ กลิ่นเอย
ตาข่ายแขวนขึงคล้องเครื่องห้อยตรลบหอม
          จักกฤบณ์พิศภาคพื้นไพชนต์
ชายเนตรบงแกลบนเบิกไว้
หวังจิตรคิดจักยลเยาวลัก ษมีนา
บุญบุพเพดลให้ปรสบสร้อยศรีสมร
          ปางองค์เยาวเรศล้ำลักษมี
สถิตยแทบปราสาทสีหาศน์ห้อง
ดลใจนาฎทฤษดีโดยช่อง แกลแล
ไนยเนตรนางเลงต้องเนตรไท้ผทมสินธุ์
          กุศลสองก่อนสร้างทันถึง
เสียวจิตรพิศวาศรึงรักร้อน
ต่างองค์ต่างหลงตลึงลานเสน่ห์ กันนา
พระเหลือบเยาวลักษณ์ค้อนตอบให้ในที
          จักรรัตน์ปรวัดว้าสวาศครัน
เยาวลักษณ์ลานทรวงกรสัลเสน่หไท้
เคยรองบทเรศธรรม์มิกราช มานา
ความรักรุมจิตรให้เร่าร้อนรัญจวล
          อาวตารดาลเสน่ห์ด้วยนวลอนุช
แสนรักอรรคเรศสุดสวาศล้ำ
จะยาตรไป่ยาตรหยุดยืนเพ่ง เพลินนา
บงนาฎบอิ่มน้ำจิตรปลื้มลืมองค์
          พระลักษณ์เหนหริเพี้ยนจริตผิด
กรบัตรยอกรสกิดกล่าวถ้อย
ดังฤๅพระทรงฤทธิรออยู่
เชิญเสดจยุรยาตรคล้อยคลาศไท้นักธรรม์
          ฟังองค์พระอนุชโอ้อดสู ใจนา
ฝืนจิตรจรตามผลูเหลือบซ้าย
แลขวากลับมาดูดวงสวาศ พี่เอย
ถอนทอดหฤไทยย้ายย่างเยื้องยลสมร
          ดูใดไป่ปลื้มเปรียบบังอร พี่เอย
แสนสุดอาไลยสมรแม่นี้
เงยภักตร์เพ่งบัญชรทุกช่อง แกลนา
แลตระลอดจนลี้ลับแล้วเลยจร
          ลักษมีศรีสวัสดิ์แก้วกัลยา ณีแฮ
พิศเพ่งพระจักราคลาศแคล้ว
นางแสนสุดเสนหาหริรักษ ท่านเอย
แลส่งลับเนตรแล้วหับห้องโหยหวน
          พระวสิฐสวามิตรเต้าตามถนน
กอบกิจสำรวมสกนธ์แช่มช้า
พระลักษณรีบจรดลโดยด่วน มานา
หริรักษรึงจิตรว้าวุ่นด้วยดวงสมร
          เหลียวหลังแลลับแล้วจรลี
ตามอุไภยมุนีนารถเต้า
ถึงโรงราชพิธีทองเพริศ พรายนา
พระวสิฐนำสองเข้าสู่พื้นภูมสถาน
          สถิตยเหนือราชอาศน์พื้นพรมปู
ชายเนตรชำเลืองดูเครื่องตั้ง
จักกฤษณพิศเพ่งธนูนึกกรยิ่ม ใจนา
คงจักสมคิดครั้งคาบนี้ตรนักเหน

จบห้องที่ ๔


  เนื้อความกล่าวถึงพระฤษีวสิฐและพระฤษีสวามิตรพาพระรามและพระลักษณ์เดินทางมาถึงกรุงมิถิลาและเข้าไปในพระราชฐาน ระหว่างที่พระรามเสด็จดำเนินอยู่ ได้ทอดพระเนตรขึ้นไปยังบานพระแกลปราสาทที่เปิดอยู่หวังจะได้เห็นนางสีดา ขณะนั้นนางสีดาเยี่ยมพักตร์ออกมา ทั้งสององค์จึงได้สบเนตรกัน ด้วยบุพเพสันนิวาสทั้งสององค์นึกเสน่หากัน พระลักษณ์ทูลเตือนให้พระรามรีบเสด็จตามพระฤษี แล้วพระฤษีนำกษัตริย์ทั้งสองเข้าประทับในโรงพิธี เมื่อพระรามทอดพระเนตรเห็นธนู ก็นึกกระหยิ่มใจว่าจะต้องสมประสงค์

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “จักกฤษณ์พิศภาคพื้น ไพชยนต์”

คำอภิธานศัพท์

คำศัพท์ คำอธิบาย
ไท้ผทมสินธุ์พระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ในที่นี้หมายถึง พระราม
บังอวดหน้าต่าง
ผลูทาง
พระจักราผู้ทรงจักร คือพระนารายณ์ ในที่นี้หมายถึง พระราม
ลักษมีพระลักษมีชายาพระนารายณ์ ในที่นี้หมายถึง นางสีดา
หริพระนารายณ์ ในที่นี้หมายถึง พระราม
หริรักษพระนารายณ์ ในที่นี้หมายถึง พระราม