ห้องที่ ๘๕ : หม่อมเจ้าสวัสดิ์


           วายุบุตรแปลงรูปแม้นพรหมมาน
ภักตรสี่แปดกรทยานเยี่ยมฟ้า
โถมถีบปิ่นปางตาลรถหัก
ปวงนาฏกำนัลว้าวิ่งดั้นขวัญหนี
          อสุรีตกรถล้มโลดถลัน
นางต่างนางพัลวันหวีดแจ้ว
จอมมารพบลิงฉกรรจ์พลางตวาด
อุเหม่ลวงเราแล้วกลับสู้ดูทมิฬ
          ขุนกระบินทรเยาะว่าแฮ้อสุรา
จักใคร่คืนคทาเร่งไหว้
แถลงพลางแผ่ศักดาโดยเดช
หักคทาโยนให้เฉพาะหน้าพระยามาร
          ภูบาลบพิตรเจ้าจอมยักษ
เหนคทาเพชรหักยิ่งเศร้า
แสนอายเสื่อมยศศักดิ์แสนโกรธ
พลางเร่งพลรุมเข้าไล่ล้อมพานร
          แปดกรวายุบุตรต้านตีศึก
เฉกพยัฆจับมฤคขบคั้น
พลมารพ่ายกลับสอึกโอบไล่
ลิงฉีกขาแขนสบั้นยักษม้วยหมดลง
          องค์สหัศเดชะเจ้าปางตาล
หมดรถหมดพลมารมอดม้วย
โกรธาจับศรทยานหมายมุ่ง
เสร็จเสี่ยงแผลงไปด้วยเดชดั้นเสียงคนอง
          ศรข้องวายุบุตรถ้วนขุมขน
ลิงห่อนรคายสกนธ์กลับเย้า
กอนหักลูกธนูจนยับย่อย
พลันเผ่นโผนโจนเข้าขู่สู้กุมภัณฑ์
          สองยันสองแย่งย้อนยุดยิง
ยักษหวดศรถูกลิงแทบล้ม
ลิงกลับไล่ฉวยชิงอาวุธ
ฉุดถีบยักษเสือกก้มกลอกสิ้นสาตรา
          อสุราสุดฤทธิเยื้องขยาดเหงา
หวนขัดติย์มานะเมามุ่งมล้าง
แผลงเดชหักภูเขาขะจายลั่น
ครบหัดถ์ถือหินง้างทุ่มทิ้งพานรินทร์
          ขุนกระบินทร์หลบฬ่อล้อลอบชก
ยักษพลาดลิงเหยียบอกแอ่นเอี้ยว
เอาหางมัดเวียนวกตวัดแน่น
ยักษขยับกายเลี้ยวยิ่งติ้วตึงตน
          บัดดลพานเรศร์แสร้งเสกหาง
ยาวหย่อนเหาะมาพลางรีบเฝ้า
ขอทหารช่วยหยอกนางเมียยักษ
ราเมศทรงโปรดเกล้าสั่งให้ลิงรดม
          ลิงบังคมต่างพร้อมพลันมา
ถึงที่มัดอสุราราพร้าย
ปวงลิงไล่กัลยาหยอกยั่ว
ฉุดคร่าแขนขวาซ้ายสอดส้วมรับขวัญ
          กำนัลกรรณ์เนตรแก้มนวลกาย
ลิงหยอกหลอกเยาะหลายอย่างล้อ
อึงจัดอัดใจอายจำอด
ทุกส่ำทำแสนท้อโศรกแท้สุดทน
          ดลสองพันเนตรท้าวทัศนา
ลิงหลอกหยอกกัลยายิ่งร้อง
สุดอายสุดวิชาสุดเล่ห์
โดยโกรธพลันตวาดก้องเกริกพื้นพสุธา
          บัดวายุบุตรจ้องจับตรี
แผลงเดชดุจไกรสีห์เยี่ยมถ้ำ
โถมจิกเกษอสุรีจรีแกว่ง
ตัดหั่นฟันเศียรห้ำยักษร้ายวายชนม์
          เสรจผจญเสรจฆ่าเจ้าปางตาล
เทพยต่างโปรยผกากาญจน์เกริกฟ้า
บุตรลมแกว่นทหารฦๅชื่อ
เหาะด่วนมามิช้าเร่งเฝ้าจักรี
          ทูลคดีเสรจซึ่งล้างมารทมิฬ
ทรงศักดิ์ชมเดชกระบินทร์ใช่น้อย
พลางตรัสสั่งพานรินทร์สุครีพ
เลิกเร่งทัพคลาคล้อยเสดจเข้าพลับพลา
          อสุราคอยเหตุแจ้งจรจรัล
รีบสู่ลงกาพลันนบเกล้า
แถลงสองกษัตริย์บัลไลยล่วง
ทศภักตรฟังพลางเศร้าโศรกแล้วปฤกษา
          เสนาเสนอเดชท้าวแสงอาทิตย์
ขอเร่งเชิญมาคิดศึกไท้
พระยายักษสดับกิจเหนชอบ
พลางสั่งนนทกาลให้รีบร้อนเชิญหลาน
          นนทกาฬรับสั่งแล้วลีลา
รีบสู่โรมคันคลาคล่องเฝ้า
แถลงศึกพระรามามาประชิต
องค์พระบิตุลาเจ้าโปรดให้เชิญประชุม
          กุมภัณฑ์แสงอาทิตยได้สดับสาร
โกรธสั่งเตรียมทวยหาญห่อนช้า
เสร็จสรงจับศรทยานทรงรถ
ตรัสเร่งพลกองหน้าเคลื่อนคล้อยจัตุรงค์
          ถึงลงกาหยุดทัพแล้วลงรถ
เสด็จแทบบิตุลาประนตนบเกล้า
ทศภักตร์เล่าความรทดศึกใหญ่
พลันพระหลานโกรธเร้าร่ำอ้างอาษา
          อสุราชมเดชท้าวหลานขวัญ
เรียกเครื่องไชยบานพลันเพียบพร้อม
สองเสวยพิศรบำบรรเลงรื่น
พลฝ่ายทัพประชุมล้อมเล่าเข้าระดมกิน
          จอมนรินทรทรงถอดสร้อยสังวาลย์
กับพระธำมรงค์ตระการก่องแก้ว
รางวัลแต่พระหลานพลันรับ
นบบาทลานารถแล้วยาตรเยื้องยังพล
          พักพหลจนรุ่งให้เตรียมทัพ
สรงเสร็จทรงศรสรรพสาตรแกล้ว
ลีลาสู่รถรยับงามยิ่ง
จอมยักษมีหฤไทยแผ้วผ่องเหี้ยมเหิมณรงค์
          รถทรงแสงอาทิตยเจ้าจอมมาร
เทียมราชสีห์ทยานย่างเต้น
สารถีชื่อฦๅชาญเชิงขับ
เรววิ่งซอยฤๅเว้นว่องแม้นจักรผัน
          กุมภัณฑ์พลเพียบพื้นพสุธา
มือจับปวงสาตราต่างห้าว
เดินขบวนด่วนลีลาดินลั่น
ผงฝุ่นอบกลบด้าวดื่นฟ้ามัวมน
          เดินพลถึงที่ท้องสนามรบ
จอมยักษเหนศพยักษเกลื่อนใกล้
พลางตรัสสั่งพลสงบทัพอยุด
คุมค่ายเสรจพลันให้โห่ร้องเริงสนาม

จบห้องที่ ๘๕

  เนื้อความกล่าวถึงหนุมานแปลงร่างเหมือนพระพรหมสี่พักตร์แปดกรสูงเทียมฟ้า กระโดดถีบรถทรงจนสหัสเดชะตกจากรถ หนุมานเยาะเย้ยสหัสเดชะแล้วหักคทาโยนใส่หน้า สหัสเดชะอับอายสั่งไพร่พลเข้าล้อมจับหนุมาน แต่ก็ถูกหนุมานฆ่าตายทั้งหมด สหัสเดชะแผลงศรเข้าใส่หนุมานทุกขุมขน แต่หนุมานถอนลูกศรออกได้หมดสิ้น สหัสเดชะใช้มือทั้งสองพันทุ่มหินใส่แต่หนุมานก็หลบหลีกได้ เมื่อสหัสเดชะพลาดท่าถูกหนุมานเหยียบอกไว้ได้ หนุมานเอาหางมัดร่างสหัสเดชะไว้ แล้วให้พลวานรมาหยอกเย้าเหล่านางกำนัลของจอมรากษส ทำให้สหัสเดชะอายและโกรธจนลืมตัว หนุมานได้ทีจึงชักตรีตัดเศียรสหัสเดชะ เมื่อทศกัณฐ์รู้ว่าทั้งมูลพลำและสหัสเดชะถูกสังหาร ก็เสียใจมาก ปรึกษาเหล่าเสนาแล้วคิดจะให้แสงอาทิตย์ลูกพญาขรมาช่วยทำศึก ทศกัณฐ์สั่งให้นนทกาลไปยังเมืองโรมคัลเพื่อทูลเชิญแสงอาทิตย์ แสงอาทิตย์รีบยกทัพมายังกรุงลงกา เมื่อเข้าเฝ้าทศกัณฐ์แล้ว รุ่งขึ้นก็เดินทัพสู่สมรภูมิ