ห้องที่ ๔๑ : พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค


          ขัษณวานรทัพหน้าตรวจพนานต์ ทางนา
เหนอสุรเดียวดาลเทวศไห้
ออกนามพระอวตารเดินปน มาแฮ
วานเรศล้อมลากไว้วุ่นว้าพัลวัน
          พิเภกประหม่าซ้ำเสียวสยอน ขยาดแฮ
ถามว่าพลพานรพวกนี้
บังอาจลากฉุดกรมีกิจ ดังฤๅ
ผิดชอบใดบชี้ช่องให้เราเหน
          นิลเอกว่าอาตมแท้โยธา หาญเฮย
พลพระจอมจักราฤทธิก้อง
จะเสดจเกาะลงกาผลาญราพ ร้ายแฮ
เองพวกอสุรต้องจับเจ้าไปถวาย
          พิเภกสดับถ้อยแถลงนาม หริฤๅ
บอกว่าตนสืบตามเสาะเต้า
ไช่เปนริปูความคิดซื่อ ตรงแฮ
ขอท่านภาเราเฝ้าฝ่าไท้ถวายตัว
          นิลเอกยินพจนแล้วภาตน พิเภกเอย
ไปที่ประชุมพลภักตรพร้อม
คำนับบุตรสุริยนเสรจเล่า แถลงแฮ
ตามที่ภบอสุรล้อมจับได้ตัวมา
          สุครีพยลราพแล้วตวาดถาม แทตยเฮย
ใดชื่อชาติพงษคามบอกข้อ
เออเองออกพระนามกิจเรื่อง ใดฤๅ
จึ่งบเกรงทัณฑ์ท้อโทษล้างบันไลย
          อสุรทราบซักพร้องบอกพลัน
เราชื่อพิเภกพันธุ์เผ่าพ้อง
เปนขนิฐทศกรรฐเกิดร่วม ครรภ์แฮ
อยู่เกาะลงกาต้องขับเข้าไพรเขียว
          เดิมทีฝันอุบาทวให้เราทาย
โกรธริบขับกลับกลายเกลียดกล้า
เรานึกแสวงนายนึกห่อน เหนเฮย
จึ่งคิดมาเปนข้าบาทไท้จักรี
          สุครีพซักทราบแล้วรีบรุด เรวเฮย
กับสิบแปดมงกุฎเสรจเฝ้า
บังคมพระทรงครุธถวายเรื่อง ทูลแฮ
กองตรวจภบยักษเข้าจับได้ตัวมา
          มีนามพิเภกน้องทศกรรฐ์
พี่ขับจากเมืองมันคลาศแคล้ว
จักรองบาททรงธรรม์เสาะเที่ยว มานา
แม้มิโปรดเลี้ยงแล้วชีพน้อมยอมถวาย
          จักรพงษทรงทราบสิ้นเสรจสาร
ออกพระโอษฐโองการตรัสให้
นิลเอกรีบพามารพิเภก มาเฮย
ตระบัดนิลเอกไหว้กราบแล้วครรไลย
          ถึงแทตย์แถลงว่าไท้จักรรา
มีรับสั่งให้หาแห่งเจ้า
พลางกมหัดถ์อสุรมาถึงที่ เฝ้าแฮ
พิเภกโอนศิรเกล้ากราบน้อมอภิวันท์
          จักรกฤษณตฤกกริ่งถ้อยตรัสถาม
ดูก่อนพิเภกความเท่านั้น
ควรฤๅพี่เองหยามหยาบไล่ เองเอย
ฤๅส่อสืบศึกซั้นซ่อนซ้อนกลมา
          พิเภกทูลใช่ซ้อนกลความ
ทศภักตรฝันร้ายถามบอกให้
คือจักขาดชีพตามตำหรับ โหรแฮ
จงส่งสีดาไท้แทบเบื้องบทมาลย์
          กลับโกรธรีบไล่ข้าบาทมา
ที่พึ่งแลฤทธาเปล่าเปลื้อง
แตตำหรับโหราเรียนทราบ เสรจแฮ
หมายมุ่งมาพึ่งเบื้องบาทไท้ทูลเศียร
          จักรกฤษณจึ่งตรัสด้วยมนตรี
พิเภกมาฝากชีพิตรไว้
รับควรมิควรดีใดบอก เราเอย
ญาณฤกษควรเลี้ยงใช้แต่เชื้อทศกรรฐ์
          สุครีพทูลว่าต้องทดลอง
ให้กระทำสัตยสนองบาทไว้
ใจตรงจึ่งควรปองโปรดชุบ เลี้ยงแฮ
ผิวะพิรุธจักได้เฆี่ยนซ้ำบั่นเศียร
          หริวงษทรงสดับสิ้นนุสนธิ์
สั่งสุครีพนายพหลเร่งให้
เชิญพรหมมาศสงชลเปนประ ธานเฮย
ให้แทดย์ทำสัตยไว้ต่อหน้าพลากร
          สุครพคำนับน้อมบาทมูล
ศรใส่พานเชิญทูลศิระไว้
พาพิเภกพลันยูรยาตรที่ ปชุมแฮ
สรงซึ่งศรเสรจให้ยักษตั้งสัตยา
          พิเภกทำสัตยซร้องสาบาล
ปวงเทพยเปนทิพยานอย่าแคล้ว
ผิวะบซื่อศรผลาญชีพแห่ง ข้าแฮ
กราบรับชลพัฒน์แล้วดื่มด้วยยินดี
          บุตรอาทิตยชิดชอบถ้อยแถลงสาร
เราจักรับราชการร่วมเจ้า
ท่านพงษเผ่าพรหมมานเรารวิ วงษแฮ
สมศักดิ์ควรจักเข้าคบข้าคือสหาย
          พิเภกตอบว่าข้าขอบใจ
ยอมกระทำสัตยในที่พร้อม
เราสองร่วมฤๅไทยศุขทุกข์ เทียมแฮ
ต่างรับคำนับน้อมจิตรไว้ใจกัน
          ฝ่ายพิเภกดูทแกล้วจักรกฤษณ
สิบแปดมงกุฎพิศเครื่องถ้วน
พานรแน่นอกนิฐตนต่าง แต่งแฮ
เพชรฒาธกุณฑลล้วนเลิศทั้งยศถา
          ถามสุครีพว่าไท้จักผจญ มารฤๅ
ทศภักตรก็ฦๅรณทั่วด้าว
พลพานระยุคลบาทเลิศ ไฉนนอ
เหนแต่หณุมานห้าวเมื่อเมื้อลงกา
          สุครีพว่าฤทธิแม้นหณุมาน มากแฮ
ฤทธิ์ฝ่ายชมพูพาลกาจแกล้ว
องค์อิศระประทานพรเพิ่ม ภูลเฮย
ใครจักคิดฆ่าแล้วหอ่นสิ้นสูญชนม์
          พานรินทรฤทธิเลิศนั้นเหลีอนับ
ชีพล่วงถูกลมกลับชีพแล้ว
เผ่นโถมผจญทัพสหายอย่าง แหนงแฮ
เสรจพจนภากันแคล้วคลาศเฝ้าอวตาร
          ทรงจักรซักแทตยซ้อมเสาวนา
พลเท่าใดลงกาเกาะนี้
เราจะเร่งพานรารุกไล่ รบเฮย
ได้มิได้จงชี้ช่องให้หายฉงน
          พิเภกทูลว่าพ้องพลขับ ขันแฮ
แทตยที่ลงกานับไม่ถ้วน
วานเรศรฤทธิรบทัพยังห่อน เหนเฮย
เหลือปมาณประมวนม้วนมอบถ้อยทูลฉลอง

จบห้องที่ ๔๑

  เนื้อความกล่าวถึงนิลเอกพาพลวานรทัพหน้าตระเวนแนวป่า เห็นพิเภก ก็จับตัวมาให้สุครีพซักถาม พิเภกเล่าเรื่องที่ถูกทศกัณฐ์ขับไล่และขอสวามิภักดิ์พระราม พระรามจึงให้นำตัวพิเภกเข้ามา เมื่อซักถามก็ปรึกษากับบรรดามนตรีวานรเรื่องที่พิเภกขอมาสวามิภักดิ์ สุครีพให้พิเภกกระทำสัตย์สาบานไว้ก่อน หากซื่อตรงจงรักภักดีก็ชุบเลี้ยง หากมีพิรุธก็ฆ่าเสีย หลังจากที่พิเภกดื่มน้ำสาบานจะจงรักภักดีพระราม สุครีพกับพิเภกก็ได้กระทำสัตย์สาบานเป็นสหายกัน พิเภกเห็นบรรดาพลวานรแต่งเครื่องเต็มยศพร้อมไปรบกรุงลงกา ก็บอกว่าทศกัณฐ์มีเดชศักดาแกล้วกล้าการรบเลื่องลือไปทั่วแดน ตนยังไม่เห็นฤทธิ์เดชพลวานรของพระราม เห็นแต่ฤทธิ์เดชของหนุมานคราวเมื่อไปกรุงลงกา สุครีพจึงบอกฤทธิ์เดชต่าง ๆ ของขุนทหารวานรให้พิเภกฟังแล้วพากันไปเฝ้าพระราม พระรามตรัสถามพิเภกถึงกำลังพลกรุงลงกา และพลวานรจะสู้ได้หรือไม่ พิเภกทูลว่ามีมากมาย แต่ตนยังไม่เห็นเดชศักดาของบรรดาพลวานร จึงไม่อาจประมาณได้