ห้องที่ ๔๐ : พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค


          ปางทศภักตรเผ่าพ้องพงษพรหม เมศเฮย
กับมิ่งมณโฑผธมแท่นแก้ว
ทรงสถิตยแต่ประถมยามย่ำ
ธม่อยหลับสนิทแล้วล่วงพ้นยามประฉิม
          ทัณฑ์จะถึงชีพไท้ทศกรรฐ
เกิดนิมิตรมหัศจรรย์จิตรว้า
ตกใจตื่นตรองฝันเฟือนเฝื่อน ใจแฮ
ภอสุริยจัดแจ่มฟ้าฝ่ายท้าวเสรจสรง
          ทรงเครื่องเสรจเสดจท้องโรงธาร ท่านแล
ประทับอาศน์อมาตย์มารหมอบเฝ้า
องค์อสุรโองการบอกกิจ พิเภกเอย
เรานิทร์คืนนี้เจ้าพี่เคลิ้มหลับฝัน
          เหนคิชฌขาวเฃตรเบื้องบูรพ์ทิศ
ทางประจิมคิชฌกฤษณ์เตร่กล้า
เจอกันประจัญฤทธิคิชฌหมึก พ่ายฤๅ
ตกพ่างภูมมิช้าชีพสิ้นเปนอสูร
          ยังเชษฐฝันต่อนี้อัศจรรย์ ใจนอ
ฝันว่าถือกลาอันหนึ่งไว้
ภายในใส่น้ำมันยางเปี่ยม ปากนา
ในท่ามกลางมีไส้ใส่แท้เทียมตเกียง
          มิหญิงหนึ่งจุดเชื้อเพลิงกาล
ไส้กับน้ำมันสมานหมดแห้ง
กลาไหม้อัคนิหาญติดหัดถ์ พี่แฮ
ร้อนทั่วองค์จงแจ้งจะร้ายดีไฉน
          พิเภกยินยิ่งท้อทุกข์ถวิล หวาดแฮ
ทราบแน่เสียธานินหนึ่งแล้ว
จึงทูลว่าทรงสุบินถือซึ่ง กลาฤๅ
คือแก่งลงกาแก้วก่อข้อเกิดเขญ
          ไส้เชื้อคือคู่ไท้เชษฐา
เตละคือวงษาเผ่าพ้อง
ไฟได้แก่สีดาเดียวเด่น ดวงแฮ
หญิงคู่สำมนักข์น้องจุดเชื้อเพลิงเริง
          ราชคิชฌขาวผ่องนั้นรามา
กัณหคิชฌคือเชษฐาดุจถ้อย
จักประดิรพอัปราชีพลับ มลายแฮ
องค์อสุรทราบสร้อยโศกซ้ำปฤกษา
          จักคิดดับเสดาะด้วยใดคลาย
ฝันอุบาทว์จึ่งจะหายห่างได้
พิเภกว่าฤๅวายเวรเรื่อง ร้ายเลย
เหนแต่ยุติธรรมให้ห่างทิ้งทางพาล
          สมบูรณสมบัติท้าวเทียมสรวง
เนืองคณะพธูปวงเปี่ยมหล้า
สีดาแต่เดียวดวงสวาศร่วม รามฤๅ
ผิว่าคือนางข้าคิดสิ้นเศิกไกษย
          ฟังทูลเทียมถูกร้อนไฟแรง
ยี่สิบพระเนตรแดงจัดจ้า
เหม่มึงช่างจัดแจงจักส่ง นางฤๅ
ดูหมิ่นพงษพรหมกล้ากล่าวได้โดยใจ
          คิดว่ามึงคู่พ้องคัพภา
ทุกขศุขหวังปฤกษาร่วมไร้
กลับยอยกปัจจามิตรขู่ กูแฮ
เองอะกตัญญูได้เด็จพ้องพงษพันธุ์
          พิเภกยินตรัสกริ้วกราบกราน
ทูลว่าทายทัดทานท่านไท้
หวังกอบเกียรดิ์ยศนานในยุติ ธรรมแฮ
ซึ่งจักสอดเปนไส้ศึกนั้นอย่าแหนง
          ทศเศียรยินยิ่งกริ้วตรัสพลัน
มึงกับกูขาดกันพี่น้อง
ยกรามเชิดฉีกพันธุ์พงษเผ่า พรหมฤๅ
เหนว่ากูผิดพ้องเร่งพ้นเมืองมาร
          ขับพลันคิดพลุ่งแค้นชักขรรค์
โถมไล่พิเภกถลันเผ่นแคล้ว
แอบกุมภกรรฐทันเหตุที่ กลัวแฮ
เสียงสั่นอันชลตแล้วหลบร้องขอชนม์
          ครั้นเหนเชษฐไล่ไกล้จะทัน
เข้าแอบอินทรชิตพลันหลบได้
ทศเศียรบ่ทันพันภักตร์เฝื่อน
แผดสั่งปาวนะให้เร่งค้นรีบของ
          ริบสรรพสิ่งสิ้นเสรจสับ
มันอยู่หนักนครขับอย่าไว้
อีตรีชฎาจับตัวส่ง สวนเวย
เป็นทาษสีดาใช้เช่นถ้อยกูแถลง
          ปาวนะน้อมเกล้ารับโองการ
พาพิเภกขุนมารมุ่งเต้า
อสุรเดินดาลเทวศด่าว แดแฮ
ถึงที่สถิตยเข้ากอดแกวตรีชฎา
          ออกโอษฐสอึกสอื้นอาดูร
พลางเล่าแถลงมูลเหตุไท้
ฝันร้ายพี่ทายทูลตามสัตย จริงนา
หวังจะผ่อนผันให้ห่างพ้นไภยไกษย
          ท้าวธกลับโกรธแค้นตรัสขับ พี่เอย
ให้ริบทั้งสินทรัพย์เก็บเกลี้ยง
ตัวเจ้าประทานกับพระลักษ มีนา
เจ้าอยู่เอนดูเลี้ยงลูกด้วยดวงสมร
          ตรีชฎาระทศทั้งเบญกาย
ยินสั่งศรีภักตร์คลายเผือดคล้ำ
สามกระษัตริยโศกบวายเสียงสั่ง สารเอย
ทรงแตกรรแสงซ้ำแทบสิ้นสมประดี
          บัดนายอสรผู้ธิบดี
ริบเสรจสอบบาญชีเครื่องใช้
บ้างพาสุดาตรีชฎาสู่ สวนแฮ
ปาวนะทูลพิเภกให้รีบลี้ลาจร
          ยินขับคับจิตรท้อใจทวี เทวศเฮย
ผันภักตรพิศบุตรีสุดกลั้น
ไห้พลางจากปรางศรีโศกสู่ ทางแฮ
ออกนอกนครอั้นอกตื้นตันทรวง
          ดำเนินนึกอนาถโอ้อาทวา
ถวิลวากายเอกาเกิ่ยงไร้
คิดพึ่งพระพงษาสูญที เหนเฮย
มีแต่เกรงทัณฑ์ไท้แทตย์ผู้ผ่านถวัลย
          จำจรัญถึงฝั่งน้ำหยุดพัก
จึงจับยามประจักษจิตรแล้ว
ครูจรประจำลักษณ์เลงที่ จันทรนา
แรงโทษร้างถิ่นแคล้วแต่สิ้นมรณไกษย
          จักได้ที่พึ่งนั้นคือนรายน์
อยู่อุดรควรถวายชีพไว้
ตริเสรจเหาะข้ามสายสมุทรีบ เรวนา
ลงสู่เนินทรายได้สดวกดั้นเดินจร
          โศกพลางพลันว่าไท้เทพา รักษเอย
เชิญช่วยดลมนัสาส่งให้
สบพระสี่หัดถายังที่ สถิตย์แฮ
พลางร่ำพลางรีบใกล้แก่งแก้วคันธกาล

จบห้องที่ ๔๐

  เนื้อความกล่าวถึงถึงคราวที่ทศกัณฐ์จะสิ้นชีวิต เกิดฝันประหลาด ครั้นรุ่งเช้าก็เล่าความฝันให้พิเภกฟังว่า เห็นแร้งขาวบินจากทิศบูรพาและแร้งดำบินจากทิศประจิมและจิกตีกัน แร้งดำเสียทีแพ้ตกลงมากลายเป็นยักษ์ ทศกัณฐ์เล่าว่าได้ฝันต่ออีกว่า ตนถือกะลาใส่น้ำมันยางเต็มเปี่ยม ตรงกลางมีไส้ มีหญิงผู้หนึ่งจุดไฟที่ไส้ ไฟลุกจนไส้และน้ำมันแห้ง ไฟไหม้กะลาจนติดมือทำให้ร้อนไปทั้งกาย พิเภกได้ฟังก็ทราบแน่ว่าจะเสียบ้านเมือง แล้วทูลทำนายว่า กะลาคือกรุงลงกา ไส้เชื้อคือทศกัณฐ์ น้ำมันคือเผ่าพงศ์พี่น้อง ไฟคือนางสีดา หญิงที่จุดไฟคือนางสำมนักขา แร้งขาวคือพระราม แร้งดำคือทศกัณฐ์ซึ่งจะรบกับพระรามและสิ้นชีวิต ทศกัณฐ์ฟังคำทำนายแล้วก็ปรึกษาหาวิธีที่จะให้พ้นเคราะห์ พิเภกทูลว่าไม่มีวิธีแก้ไข นอกเสียจากประพฤติธรรมที่ถูกต้อง หากคืนนางสีดาแก่พระรามเสีย การศึกสงครามก็สิ้นสุด ทศกัณฐ์ได้ฟังก็โกรธและขับไล่พิเภกออกจากเมือง ทั้งริบสมบัติและให้นางตรีชฎาไปรับใช้นางสีดาที่อุทยาน พิเภกออกจากกรุงลงกามาจนถึงฝั่งสมุทร คิดไปสวามิภักดิ์กับพระราม แล้วพิเภกข้ามสมุทรเดินมุ่งสู่เขาคันธกาลา

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เสียงสั่นอันชลิตแล้ว”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “กอดแก้วตรีชฎา”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ทรงแต่กรรแสงซ้ำ”

คำอภิธานศัพท์

คำศัพท์ คำอธิบาย
คิชฌแร้ง
เตละน้ำมัน