ห้องที่ ๑๖๓ : หม่อมเจ้าภุชงค์


           พระพรตภูวนารถกริ้ว กุมาร
ว่าเหม่ลูกอหังการ เก่งแกล้ว
เสนีเร่งมัดประจาน จงมั่น
สั่งเสรจทรงรถแล้ว เลิกรี้พลจร
           ถึงนครอยุดทัพแล้ว เสดจดล วังเอย
สองราชนบบาทยุคล เชษฐไท้
ทูลความแต่เดิมผจญ จนเสรจ ศึกนา
จับพี่มัดมาได้ แต่น้องดอดหนี
           จอมศรีอยุทธเยศได้ สดับสาร
พิโรธดุจเพลิงผลาญ พลุ่งฟ้า
ดำหรัสเรียกนครบาล โดยด่วน
จงรีบจับเด็กกล้า กาจร้ายไปจำ
           ทัณฑกรรมครบเครื่องห้า ประการ เทียวเฮย
นำเที่ยวกระเวนฃาน โทษพร้อง
ปักฃาหย่างทรมาน มันนั่ง แลนา
ครบตติยวารต้อง ตัดเกล้าสังหาร
           นครบาลรับสั่งแล้ว ลีลา
มาเรียกองครักษหา เครื่องพร้อม
จองจำกุมารา ตามสั่ง
พาเที่ยวกระเวนอ้อม นิเวศน์ให้ชนเหน
           ควรเปนสังเวชทั้ง หญิงชาย นาพ่อ
เหนต่างเหนใจหาย ร่ำไห้
เพชฌฆาฏสี่นายราย รดมเร่ง ทหารแฮ
ถึงที่แตลงแกงได้ อยุดแล้วตรวจตรา
           รีบหาฃาหย่างตั้ง ตามการ
เอานักโทษทรมาน นั่งแล้ว
ดาบแดงครบมือทยาน ยืนรอบ
นายใหญ่ใจเพชรแกล้ว เร่งฆ้องเตือนขาน
          สงสารพระบุตรเศ้รา หมองศรี สลดนา
หวนนึกถึงชนนี นาฎท้าว
อีกพระปิ่นโยคี แลพระ ลบเอย
เราจักลาญชีพร้าว ห่อนได้อาลา
           ฝ่ายสุราเทเวศเสื้อ เมืองประจักษ์
ว่าหน่อพระหริรักษ รุ่มร้อน
ชวนกันช่วยพิทักษ โดยเดช
กางกลดคลายตรึงป้อน ทิพยทั้งสุคนธ์ทรง
           ปางองค์พระลบยั้ง ยังพนา ดรเอย
เหนอมิตรจับเชษฐา คลาศแคล้ว
พลันจากพุ่มพฤกษา ประสบ ศรแฮ
พลางเกบศรเชษฐแล้ว กลับด้าวอาศรม
           บังคมนักสิทธิทั้ง ชนนี
แสนโศกจักทูลคดี ห่อนได้
สองราชหวั่นวาที ถามปลอบ
บัดพระลบนารถไท้ ค่อยกลั้นกันแสง
           ทูลแถลงเดิมพบม้า มีสาร ศรีแฮ
สารว่าองค์อวตาร แต่งตั้ง
ลูกจับขี่มีพาล พฤนทร์ต่อ ยุทธ์แฮ
เขาจับเชษฐารั้ง รีบเข้าธานี
           เทวีทราบสยบแล้ว ลาญเข็ญ
นักสิทธิบอกเหตุเหน หอนร้าย
พระลบรับจับเพญ เพียรสืบ
นางคล่อยคลายโศกคล้าย เมฆแผ้วโฉมจันทร์
           รำพันตรัสสั่งแล้ว ถอดแหวน ส่งแฮ
พระลบรับสลดแสน โศกเศร้า
นบนาฎคลาศจากแดน ดาบศ มาเฮย
ถึงนิเวศนรีบเข้า พักต้นไทรทอง
          นบสนองเทเวศถ้วน สากล
เชิญช่วยบังนำดล เชษฐท้าว
สรวจเสรจสืบคำคน สังเวช
พระลบทราบแสนร้าว อุระร้อนแรงฉงน
           เดชดลอมเรศรร้อนทิพยา อาศน์เอย
ทรงเพ่งทราบกิจจา หน่อไท้
ตรัสเรียกนาฎรำพา พลางสั่ง ความแฮ
เยาวเรศรับพจนไว้ หว่างเกล้าพลันลา
           ลอยมาถึงอยุดด้าว แดนทาง
จึงสฤษดิ์รูปเปนนาง มนุษย์น้อย
กระเดียดม่อชลพลาง เดินด่วน
ถึงแทบทวารช้อย เนตรเยื้อนยลกุมาร
           สงสารสุดเทวศแล้ว นางถาม ปลอบเอย
ไยพ่ออนุชโฉมงาม โศกเศร้า
พระลบบอกจักตาม ดูฆ่า คนแฮ
มาหอนทันเขาเข้า นิเวศน์แล้วตูถวิล
           นางยินพลางว่าน้อง ควรไกล
อยู่ฉุกนักโทษคระไล ลอดลี้
เฃาจักมัดอนุชไป แทนโทษ
เพราะลักษณ์นักโทษนี้ เฉกน้องถนัดโฉม
           เราโสมนัศน้อย ในการ บุญแฮ
หวังอุทกอวยทาน อนุชน้อย
พระลบคิดคำฃาน พลางกล่าว วอนเฮย
ตูจักฃอบุญต้อย ตักน้ำมาพลัน
           สาวสวรรค์อวยม่อเยื้อน ยินดี
พระลบรับจรลี ท่าน้ำ
ตักเต็มถอดแหวนทวี วอนเสี่ยง
เสร็จด่วนมาอวยซ้ำ สั่งอ้อนโมทนา
          รำพารับม่อคล้อย ยังประชุม ชนเฮย
บอกเพชฌฆาฏคุม แค่นแล้ว
พลางนางส่งชลกุมภ์ สฤษดิ์ แด่พระบุตรนา
สรงเสรจสบแหวนแก้ว สอดก้อยกุมาร
           บันดาลคาโซ่ร้อย หลุดลง
ใครห่อนแลเหนองค์ หน่อไท้
สาวสวรรค์รีบนำตรง เดินด่วน
นางบอกหนทางให้ พระบุตรแล้วคืนสวรรค์
           พลันพระบุตรแจ้งว่า เทวา ดลเอย
แสนชื่นรีบลีลา จวบน้อง
สองโศกต่างพรรณา ในทุกข ยากแฮ
คิดยิ่งเคืองจักต้อง ต่อสู้ดูกระบวน
           เหนควรสองรีบคล้อย คลาไคล
ถึงป่ากาลวาดไพร พฤกษแพร้ว
บัดปวงหมู่พลไกร เพชฌฆาฏ
เหนนักโทษหายแล้ว ตื่นค้นอลเวง
           เหลือเกรงจำจิตรต้อง กราบทูล ฉลองเฮย
ปางปิ่นราชนเรนท์รสูรย ทราบถ้อย
โกรธายิ่งเพิ่มภูล เทียบดั่ง เพลิงแฮ
ตรัสเร่งเตรียมทัพคล้อย เสรจแล้วเสดจสรง
           อ่าองค์ราชสี่ไท้ สนานชล
ทรงเครื่องศิริวิมล มาศพร้อย
เสร็จทรงมกุฎถกล กุก่อง
ทรงจับศรขรรค์คล้อย เสดจขึ้นรัถา
           เสนานายกน้อม เศียรถวาย ไชยเฮย
เบิกโห่เดินทัพคลาย เคลื่อนคลอย
ออกจากนิเวศน์ขยาย พยุหจัดุ รงค์แฮ
พลเพียบพลนับร้อย ฤทธิห้าวหาญสนาม

จบห้องที่ ๑๖๓

  เนื้อความกล่าวถึงเมื่อพระพรต พระสัตรุด และหนุมานนำพระมงกุฎไปถึงกรุงอยุธยา พระรามสั่งให้นำไปแห่ประจานรอบเมือง แล้วนำมาพันธนาการบนขาหยั่ง ๓ วันแล้วให้ประหารชีวิต ชาวเมืองล้วนเวทนาสงสารกุมาร เทวดาและเสื้อเมืองช่วยคลายเครื่องพันธนาการและป้อนอาหารทิพย์ให้ ส่วนพระลบหนีรอดกลับมาอาศรมและเล่าเรื่องให้ทราบ พระดาบสเห็นว่าพระมงกุฎไม่น่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต นางสีดาถอดแหวนให้พระลบเพื่อไปช่วยพระมงกุฎ เมื่อพระลบมาถึงต้นไทรทองใกล้เมือง จึงอธิษฐานขอให้เทวดาช่วยนำทาง พระอินทร์จึงสั่งให้นางฟ้ารำพาไปช่วย นางแปลงเป็นหญิงสาวกระเดียดหม้อน้ำเดินมาพบพระลบและถามว่าเหตุใดจึงโศกเศร้า พระลบว่ามาไม่ทันดูเขานำนักโทษไปประหารชีวิต นางรำพาจึงบอกให้พระลบหลบไปเพราะหน้าตาคล้ายนักโทษ ส่วนนางสงสารนักโทษและจะนำน้ำไปให้ พระลบจึงอาสาไปตักน้ำ แล้วถอดแหวนใส่ลงไปในหม้อน้ำ เมื่อพระมงกุฎรับหม้อน้ำจากนางรำพามารดตัว แหวนก็เลื่อนไหลลงมาสวมนิ้วก้อย บันดาลให้โซ่ตรวนหลุดออกและไม่มีใครมองเห็นตัว นางรำพาจึงบอกทางให้ไปหาพระลบ สองกุมารได้พบกันก็ดีใจ แต่ยังคิดจะต่อสู้อีก ฝ่ายพระรามเมื่อเพชฌฆาตมาทูลว่านักโทษหายไปก็กริ้ว สั่งให้เตรียมทัพเพื่อตามจับกุมาร