ห้องที่ ๑๖๒ : นายจิตรเสมียนมิวเซียม


           สององค์บงมิ่งม้า อุปการ
กายเสวตรโอษฐเท้าปาน ชาดป้าย
ภักตรดำผูกเบาะอาน ลออเอี่ยม เอกแฮ
ยุรยาตรกิริยาย้าย ย่างแม้นเหมือนหงษ
           ชมพลางสองต่างทิ้ง เถาวัล คล้องแฮ
ม้าติดทรงสรวลสรร แซ่ซ้อง
พิศพบกล่องผูกพัน สองแสะ มานา
พระบุตรเปิดพบพ้อง เพ่งอื้นอ่านสาส์น
           ศุภสาส์นราเมศเจ้า จอมนรินทร์
ไวยกูลจากกระสินธุ์ ปราบเสี้ยน
มีพระกระมลจิน ตนานึก ฉงนแฮ
โดยศัปทกำปนาทเพี้ยน ผิดกี้กาลปฐม
           สงไสยอริราชร้าย เริงทนง
จึ่งปล่อยอปการทรง เสี่ยงม้า
ใครคิดทรยศองค์ อาจร่วม อาศน์แฮ
จะพิฆาฏชาติช้า ชั่วสิ้นวงษ์สูญ
           อ่านจบสาส์นเสรจแล้ว ตรัสพลัน
หากว่ามาฃอกัน จักให้
มาทแม้นจักโรมรัน เรารบ มันพ่อ
การขบถทดโท่ไท้ บ่แจ้งจิตรฉงน
           ตรัสพลางพระเผ่นขึ้น อัศดร
กวัดแกว่งพระแสงศร สาตรคว้าง
องค์อนุชแล่นตามจร พระเชษ ฐาแฮ
งามลออเอี่ยมอ้าง เอกแม้นอัมรินทร์
           กำแห่งวายบุตรสุ้ม ตามสกด รอยเฮย
เพ่งพบสองทรงยศ หน่อเหน้า
หนึ่งชีและหนึ่งบท จรวิ่ง ตามแฮ
โฉมเฉิดเฉกผ่านเกล้า พิศณุไท้ผธมสินธ์
          ฤๅสองอรนารถนี้ ลองฤทธิ์
จึงอาจร่วมอาศนสถิตย ที่ท้าว
มันคือปจัจามิตร จักจับ ถวายนา
ตริเสรจแผลงเดชห้าว จู่จ้วงจับประจัน
           หน่อนรินทร์ผินภักตรพ้อง ขุนสวา
ฉุนโกรธชักสาตรา ฟาดต้อง
กระบินทร์ซวดซวนถลา สลบนิ่ง นอนแฮ
พลางยุบลบอกน้อง กระบี่นี้ทนงหาญ
           ชรอยนายใช้ดอดด้อม ดูพา ชีเฮย
จึ่งบ่อกลัวชีวา ปลดเปลื้อง
มาทใครจักตามมา เราต่อ กรพ่อ
ตรัสสรรพขับม้าเยื้อง ย่างห้อรเห็จหัน
           ลูกลมคืนกลับได้ สมประดี คิดแฮ
ฉิกุมารมีฤทธี แต่จ้อย
ตีกูแทบชีวี วายวอด เจียวนา
อินทรชิตเดชยังน้อย กว่านี้ไหนไหน
           คิดพลางคลายเพศแกล้ง กลบกาย เปนเฮย
ลิงเล็กสีเทาผาย ตุ่มเต้า
หักผลพฤกษาถวาย พระพี่ น้องนอ
พระบ่สงไสยเค้า ตรัสเอื้อนโอษฐแถลง
           หณุมานทำชอบชั้น เชิงประจบ
เหนประมาทโดดตลบ ไล่คว้า
พระบุตรฟาดถูกซบ หมอบนิ่ง นอนแฮ
บัดเพศกลับคงหน้า อนุชกริ้วกระหน่ำตี
           เชษฐว่าอ้ายนี่ อหังการ
พิฆาฏให้วายปราณ เถิดน้อง
กนิฐตอบคำฃาน อย่าฆ่า เลยนอ
มันปล่อยไปสู่พ้อง พบเจ้านายมัน
          ฟังกนิฐคิดชอบแล้ว ถอนลัด ดาแฮ
ผูกกระบี่ไพล่หลังมัด แอ่นแต้
ยางไม้จรดลายหัดถ์ เปนเรื่อง สาปฮา
ใครใช่เจ้าของแก้ อย่าได้ดังประสงค์
           วายุบุตรคืนชีพดิ้น ฤๅหลด
บัดกลับลุอนุช จักรแล้ว
พระถามลูกมารุต แถลงเรื่อง จบเฮย
ทรงสดับเสดจแคล้ว สู่แก้ขุนกระบินทร์
           ลัดาไป่ปลดเปลื้อง ทรงตัด
บขาดบงแช่งชัด ที่หน้า
พระจึงออกโอษฐตรัส บอกหณุ มานแฮ
จงท่านเฝ้าผ่านฟ้า กฤษณท้าวยังสฐาน
           จนกระบินทรยินตรัสเศร้า ใจเสีย
อกเผ่าเพียงไฟเลีย ลวกไหม้
โอ้กูจะคิดเยีย ใดปลด อายนา
มาทมิเฝ้าท่านไท้ เทวศรอ้นฤๅหาย
           คิดแล้วลาบาทเบื้อง บทบงษุ์
เดินดัดลัดพุ่มพง ป่ากว้าง
ลุอยุทธยาตรง กรากสู่ เฝ้าแฮ
ก้มเกษลงแทบฃ้าง บาทแล้วรำพรรณทูล
           หริยินผินภักตรพ้อง หณุมาน
ต้องสาปถูกมัดประจาน จิตรข้อง
โกรธตรัสเหม่ใครหาญ จักวอด วายเฮย
บัดยื่นหัตถ์ลูบต้อง วลิเปลื้องจากสวา
           หณุมานกรานกราบแล้ว สนองทูล
เบื้องบาทบดินทร์สูรย์ สุดถ้อย
พระตรัสสั่งหณุยูร ยาตรเร่ง อนุชแฮ
ให้จับอ้ายเดกจ้อย จิตรเอื้อมโอหัง
          ลูกลมรับพจนขึ้น เมฆา
ถึงทัพอนุชา ท่านแจ้ง
พระให้เร่งโยธา เดินด่วน ไปเอย
พลเพียบเพียงเบียดแป้ง ป่าล้มรเนนนอน
           ปางสองน้องพี่ได้ ยลพล มาแฮ
ยืนสกัดกล่าวยุบล ไต่ถ้อย
สองท่านจักไปหน ใดบอก หน่อยฮา
พาพวกมาไม่น้อย กิจเกื้อการไฉน
           น้องนรินทรยินพจน์อื้น ตอบพลัน
เฮ้ยเด็กอย่าโมหัน สู่รู้
เองร่วมอาศนทรงธรรม์ โทษยิ่ง ใหญ่แฮ
เราจักจับสองผู้ ขบถไท้ไปถวาย
           ตรัสพลางแผลงสาตรโต้ ตอบผลาญ สาตรแฮ
ต่างอาจต่างอุกราญ รุกเกรี้ยว
ศรพระบุตรสังหาร ทรวงกษัตริย์ สองแฮ
แล้วกลับเปนบ่วงเลี้ยว ไล่ล้างพลขันธ์
           วายุบุตรบัดโดดเข้า ราวี
พระหวดต้องศรศรี ซบดิ้น
สองกระษัตริย์สมประดี ร่ายเวท เปนแฮ
แผลติดยลพลสิ้น บาดต้องบ่วงกระศัลย์
           พระพรตจับสาตรขึ้น เสี่ยงพลัน
นึกเดชทรงสุบรรณ กอบเกื้อ
แผลงปราดเกิดลมผัน พัดบ่วง หมดแฮ
บัดกระทบหน่อเนื้อ นารถกลิ้งกลางอรัญ
           ลูกลมโถมจู่จ้วง โจมจับ
รวบพี่น้องหนีลับ หลีกได้
บัดพาพระบุตรกลับ ยังน่า รถแฮ
ถวายแก่อนุชไท้ ธเรศเจ้าจอมราม

จบห้องที่ ๑๖๒

  เนื้อความกล่าวถึงกุมารทั้งสองเห็นม้าอุปการลำตัวขาวหน้าดำ ปากและเท้าแดง ผูกเบาะอาน เหยาะย่างสง่างาม จึงฉวยเถาวัลย์คล้องม้าและเปิดกล่องที่ผูกคอม้าออกอ่านสาร พระมงกุฎบอกว่าไม่กลัวที่จะรบ แต่ไม่รู้จักว่ากบฏคืออะไร แล้วขึ้นขี่ม้าเล่น ฝ่ายหนุมานตามม้ามา เห็นกุมารรูปลักษณ์เหมือนพระราม คนหนึ่งขี่ม้าอีกคนวิ่งตาม คิดว่ากุมารนี้บังอาจลองฤทธิ์จึงโจนเข้าไปหมายจะจับ พระมงกุฎฟาดด้วยคันธนูจนหนุมานสลบไป ฝ่ายหนุมานเมื่อลมพัดต้องตัวก็ฟื้น คิดว่ากุมารทั้งสองมีฤทธิ์ยิ่งกว่าอินทรชิต จึงแปลงเป็นลิงเล็กสีเทาแสร้งหักผลไม้ไปส่งให้ เมื่อสองกุมารเผลอก็โดดเข้าจับ แต่ถูกฟาดด้วยคันศรสลบไปอีกและกลับคืนร่างเดิม พระมงกุฎคิดจะฆ่าแต่พระลบบอกให้ปล่อยกลับไปหานาย พระมงกุฎจึงมัดหนุมานด้วยเถาวัลย์ ใช้ยางไม้เขียนคำสาปที่หน้าผากให้เจ้าของลิงเท่านั้นที่จะแก้มัดได้ หนุมานจึงไปหาพระพรต แต่พระพรตแก้ไม่ได้ หนุมานอับอาย ต้องบากหน้ากลับไปขอให้พระรามปลดเถาวัลย์ พระรามกริ้วและสั่งให้พระอนุชาจับกุมารทั้งสองมาลงโทษให้ได้ เมื่อเข้าต่อสู้กัน พระมงกุฎแผลงศรต้องพระอนุชาทั้งสองสลบ แล้วศรกลับเป็นบ่วงเข้าไล่รัดสังหารไพร่พล ส่วนหนุมานถูกตีด้วยคันศรสลบ เมื่อพระพรตฟื้นขึ้นก็ร่ายเวทสมานบาดแผล แล้วจบศรอธิษฐานถึงพระรามและแผลงศรออกไปเป็นลมพายุพัดบ่วงสูญไป พายุกระทบสองกุมารล้มกลิ้ง หนุมานคว้าตัวพระมงกุฎไว้ได้ ส่วนพระลบหนีรอดไป หนุมานจึงนำตัวพระมงกุฎไปถวายพระพรตและพระสัตรุด

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “จึงปล่อยอุปการทรง”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “กำแหงวายุบุตรสุ้ม”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ฤๅหลุด”

คำอภิธานศัพท์

คำศัพท์ คำอธิบาย
ม้าอุปการม้าที่ปล่อยในพิธีอัศวเมธ ในวรรณคดี พิธีอัศวเมธเป็นการประกาศพระบรม เดชานุภาพของพระราชา พระราชาจะทรงปล่อยม้าอุปการพร้อมกับกองทัพ ไปยังแว่นแคว้นต่าง ๆ ถ้าที่ใดไม่อ่อนน้อมกองทัพก็จะเข้าโจมตี เมื่อครบ ๑ ปี แล้วกองทัพจะยกกลับ พระราชาจะจัดพิธีฆ่าม้าอุปการนี้เพื่อบูชายัญ