ห้องที่ ๑๔๖ : หลวงบรรหารอัดถคดี


           เอกองค์จักรวรรดิเจ้า มลิวัน
ออกอาศน์มาตย์อนันต์ แน่นเฝ้า
ตรัสสั่งสุพินสัน เกณฑ์พยุห พลเฮย
จักรีบไปบั่นเกล้า มนุษยทั้งพลผอง
           สุพินสันศิระนอม รีบลี ลานา
จัดพยหโยธี กลั่นกล้า
บ้างขี่สัตวครวี อาวุธ ปลองแฮ
สีหราชเทียมรถร้า เรียบพร้อมพหลหาญ
           อสุรสรงทรงเครื่องแล้ว ลีลา
แปดหัตถ์กุมเทพอา วุธแกล้ว
เถลิงรถเคลื่อนโยธา เหิมโห่ สนั่นแฮ
พลรถคชอศวแคล้ว เคลื่อนตั้งสมรภูมิ์
           ปางพระพรตกับทั้ง พระอนุช
เนาราชพลับพลาผุด ผ่องพริ้ม
ออกหมู่มาตยดูดุจ เดือนแจ่ม จรัสนา
ทรงสดับพฤนท์โห่ปิ้ม ป่าไม้ไหวสะเทือน
           ตรัสถามพิเภกผู้ โหรา เชี่ยวแฮ
พิเภกพิศยามตรา ตรวจได้
ทูลว่าทัพเจ้าธา นีมลิ วันนอ
ทรงทราบตรัสสั่งให้ จัดรี้พลทหาร
           บุตรสุริยสดับแจ้ง จิตรพลัน
รีบเทียบทับรูปสุบรรณ์ ใหญ่ร้าย
สอสุโนคนิลขันธ์ นิลพัท เศียรนอ
อสุรผัดเปนหางผ้าย แผ่ต้อนเติมแรง
           ทวิพัทกับด้วยวิ สันตรา วีเฮย
เปนปีกครุธซ้ายขวา ไข่วตั้ง
ทัพหลวงอาตม์ครุธา ฃนเลบ พลนา
วายุบุตรพิเภกทั้ง สุครีพเข้ากองหลวง
          สองสรงทรงเครื่องพร้อม เสร็จพลัน
เถลิงรถร่วมอนุชผัน ภักตรน้อม
เสียงพิณพาทยพลขันธ์ คึกลั่น โลกยนา
ลิงยักษฮักฮึกห้อม โห่เร้ารีบจรัล
           จักรวรรดิยืนรถยั้ง กลางพลา กรแฮ
เหนทัพมนุษยมา มากล้ำ
กระทืบบาทขับโยธา ออกสกัด ตีเฮย
พวกกระบี่โถมห้ำ แทตย์ท้อถอยหลัง
           จัตุรโอษฐตวาดก้อง กาจถาม
เฮ้ยมนุษยไฉนหยาม หยาบฉนี้
คบอ้ายพิเภกตาม รุกรบ เราเฮย
ยั่งไป่รู้จักปี้ ป่นม้วยเปนจุณ
           น้องนรายน์ตอบถ้อย ทางหาญ
เธอคบเด็กอันธพาล พวกร้าย
เรามีอักษรสมาน หมายยก โทษแฮ
กลับอวดฤทธิเดชผ้าย เผ่าพ้องมาณรงค์
           สี่ภักตรสี่โอษฐโต้ ตัดกล ความนา
พี่ที่ชื่อรามคน นั่นนั้น
ปล้นสมบัติเบียนชน เชิดชอบ ไฉนฤๅ
ชมก็แต่ชาติชั้น ชนิดเชื้อเดียรฉาน
           พงษจักรพรรดิตรัสชั้น เชิงขยาย
พระพี่เปนนารายน์ ฤทธิล้ำ
สมบัติไป่คิดหมาย จักช่วง ชิงแฮ
เธอล่วงเกินจักห้ำ หั่นให้สูญปราณ
           อสุรราชพิโรธน้าว ศิลปสิทธิ์
ตองกระบี่เลวจิตร จ่อมม้วย
พระทรงลั่นศรฤทธิ พลายวาต ไปนา
ยักษ์วอดลิงรอดด้วย เดชได้อายศิลป์
          แทตยขว้างจักรล้อมรถ เปนอัค คีเอย
พระพรตทรงศรศักดิ เสี่ยงน้าว
เปนอุทกดับจักร เพลิงวอด ไวนา
ศรสิทธิต้องแทตยท้าว ตกพื้นไผทสเทือน
           แปดหัตถ์กระชากรั้ง รถอนุช นรายน์เอย
สองขัดติยฤทธิรุดม์ รีบร้า
จากรถจับอาวุธ หันหวด ราพแฮ
ต่างรุกรบรับคว้า ไขว่คว้างกลางสนาม
           พระพรตเหยียบเข่าเบื้อง สดำจักรวรรดิแฮ
สัตรุศเหยียบเสอวยักษ์ ส่วนซ้าย
แปดกรปัดทรงศักดิ์ ศรฟาด
ถูกราพเซถลาผ้าย ผ่อนสู้ชิงไชย
           พระพรตทรงหน่วงน้าว ศรนรายน์ แผลงเอย
ต้องจักรวรรดิชีพหมาย หมดเชื้อ
อสุรินทรเป่ามนต์คลาย ศรเคลื่อน หลุดแฮ
ท้อจิตรถอยทับเมื้อ มุ่งเข้านครมาร
           สององค์บงราพลี้ แลลับ
พระเสด็จพลันประทับ รถแก้ว
ให้เลิกจัตุรงค์กลับ ยังพลับ พลาเฮย
รถประทับกับเกยแล้ว เสด็จขึ้นพลับพลา
           ปางนนยภักน้อง บันไลย จักรแฮ
เนาเขตรมารันไศล ต่อตั้ง
พิธีประสงค์สาตรไตร โลกย์นารถ
แต่สิบขวบบอยั้ง จวบร้อยปีปลาย
           คราวจักเกิดเหตุร้าย ลางมี ปลาดนอ
โลหิตจากเมฆี หยดย้อย
นึกพระชนกชนนี เหตุวิบัติ ใดนอ
จำจะละกิจคล้อย รีบเฝ้าฟังการ
          จากมารันโขดขึ้น เมฆิน
ลุนิเวศน์ลงลิน ลาศเฝ้า
นางวัชชะนีผิน ภักตรพบ บุตรนา
เลื่อนจากแท่นทองเข้า โอบอุ้มบุตรถนอม
           พระนางทรงโศกสอื้น รำพรรณ พ่อเอย
เศิกมนุษยชาญฉกรรจ์ กาจกล้า
พิฆาฏพี่เจ้าบัน ไลยหมด แล้วพ่อ
บิตุเรศไปรบร้า ห่อนได้ไชยัน
           บุตรราพทราบจิตรเศ้รา ทูลลา พลันเอย
เฝ้าบิตุเรศอสุรา ร่ำไห้
จักรวรรดิกอดบุตรา พลางปลอบ ถามแฮ
การพรตอดยากไร้ เริศร้างแรมไฉน
           นนยุภักนบน้อม ทูลบรร ยายเฮย
ลางหากมหัศจรรย์ จิตรข้า
จึงละพิธีกรรม์ มากราบ บาทนา
พระแม่เล่าเรื่องว้า วุ่นร้อนการณรงค์
           เชฐสองออกต่อสู้ มรณา แล้วฤๅ
ลูกจักออกอาษา รบเร้า
บั่นเกษมนุษยสวา ถวายบิตุ รงค์นอ
พระอย่าวิตกเศ้รา เศิกนั้นพลันโทรม
           สี่ภักตร ๆ ผ่องแม้น สุริยฉาย
สี่โอษฐสำรวญผาย พจน์จ้า
แปดกรกอดรัดกาย ลูกพ่อ รักพ่อ
จงศิริสวัสดิร้า รบได้ไชยเฉลิม
           ตรัสสั่งเสวกให้ จัดทัพ พลันเฮย
วระไกรสูรรับ ใส่เกล้า
มาเกณฑ์อสูรนับ โกฏิฉกาจ ฉกรรจ์ฮา
ขี่สัตว์กุมสาตรเร้า เรียบริ้วรอคอย

จบห้องที่ ๑๔๖

  เนื้อความกล่าวถึงท้าวจักรวรรดิยกพลออกรบกับพระพรตและพระสัตรุด ท้าวจักรวรรดิแผลงศรสังหารเหล่าวานร พระพรตก็แผลงศรพลายวาตสังหารพลยักษ์และช่วยพลวานรให้ฟื้นชีวิต ท้าวจักรวรรดิขว้างจักรเป็นไฟลุกรอบรถทรงพระพรต พระพรตแผลงศรเป็นฝนดับไฟ และศรถูกท้าวจักรวรรดิกระเด็นตกจากรถ ท้าวจักรวรรดิกระชากรถของพระพรตและพระสัตรุด ทั้ง ๒ พระองค์ลงจากรถทรง เข้าต่อสู้ท้าวจักรวรรดิ พระพรตขึ้นเหยียบเข่าขวา พระสัตรุดเหยียบเอวด้านซ้าย และตีท้าวจักรวรรดิด้วยคันศรจนท้าวจักรวรรดิเซถลา พระพรตแผลงศรของพระนารายณ์ไปต้องท้าวจักรวรรดิ ท้าวจักรวรรดิร่ายมนตร์ให้ศรหลุด ท้าวจักรวรรดิท้อใจจึงเลิกทัพกลับเข้าเมือง
  ฝ่ายนนยุภักตร น้องของบัลไลยจักร ลาบิดาไปบำเพ็ญตบะที่เขามารันตั้งแต่อายุ ๑๐ ขวบ หวังจะให้พระอิศวรประทานอาวุธ จนบัดนี้อายุกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว ถึงคราวจะเกิดเหตุ มีลางร้าย โลหิตไหลออกจากเมฆ เกรงว่าบิดามารดาจะเกิดเหตุวิบัติ จึงเลิกพิธี กลับเมืองมลิวัน เข้าเฝ้านางวัชนีผู้เป็นมารดา เมื่อทราบว่าพี่ชายสิ้นชีพ จึงเข้าเฝ้าท้าวจักรวรรดิและอาสาออกสู้ศึก