ไก่แดง

Aeschynanthus andersonii C.B.Clarke

ชื่ออื่น ๆ
กาฝากก่อตาหมู, ว่านไก่แดง (เชียงใหม่)
พืชอิงอาศัย ใบเรียงตรงข้าม รูปไข่ ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามง่ามใบและใกล้ยอด ดอกเป็นหลอดสีส้มปลายหลอดสีแดง ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงกระบอก

ไก่แดงเป็นพืชอิงอาศัยตามต้นไม้ใหญ่ ต้นค่อนข้างแคระ สูง ๑๕-๖๐ ซม.

 ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่ กว้าง ๕-๖ มม. ยาว ๑.๒-๑.๕ ซม. ปลายแหลม โคนมน ขอบมีขน ปลายขนมีต่อมแผ่นใบอวบน้ำ ไม่มีก้านใบ

 ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามง่ามใบและใกล้ยอด ก้านดอกยาวประมาณ ๖ มม. กลีบเลี้ยง ๕ กลีบ รูปแถบ ยาว ๓-๔ มม. มีขน กลีบดอก ๕ กลีบ โคนติดกันเป็นหลอดงอ ๆ และค่อนข้างหนา ยาวประมาณ ๑.๘ ซม. สีส้ม ปลายหลอดสีแดง มีขน แยกเป็นแฉกบน ๒ แฉก ตั้งตรง และแฉกล่าง ๓ แฉก พับกลับไปข้างหลัง เกสรเพศผู้ ๔ อัน สั้น ๒ อัน ยาว ๒ อัน ปลายอับเรณูจรดกันเป็นคู่ ๆ รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปขอบขนาน มี ๑ ช่อง มีออวุลจำนวนมาก ก้านยอดเกสรเพศเมียเรียวยาว ยอดเกสรเพศเมียเล็ก เป็นรูปจาน

 ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงกระบอก ยาวได้ถึง ๑๕ ซม. คล้ายฝัก แตกแล้วบิดเป็นเกลียว ภายในมีเมล็ดเล็ก ๆ จำนวนมาก เมล็ดรูปรี มีขนติดอยู่ที่ปลายทั้ง ๒ ข้าง ปลายละ ๑ เส้น

 ไก่แดงมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขึ้นตามต้นก่อและต้นไม้อื่น ๆ ในป่าดิบเขา บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล นาทะเล ๑,๐๐๐-๑,๙๐๐ ม. ในต่างประเทศพบที่จีนตอนใต้ อินเดีย พม่า ลาว และมาเลเซีย.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ไก่แดง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Aeschynanthus andersonii C.B.Clarke
ชื่อสกุล
Aeschynanthus
คำระบุชนิด
andersonii
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Clarke, Charles Baron
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (1832-1906)
ชื่ออื่น ๆ
กาฝากก่อตาหมู, ว่านไก่แดง (เชียงใหม่)
ผู้เขียนคำอธิบาย
นางลีนา ผู้พัฒนพงศ์