แคฝรั่ง

Gliricidia sepium (Jacq.) Kunth ex Walp.

ไม้ต้น ผลัดใบ ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลายคี่ เรียงเวียน ใบย่อย ๗-๑๗ ใบ เรียงตรงข้าม รูปรี รูปไข่ หรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามซอกใบหรือออกตามกิ่ง ดอกรูปดอกถั่ว สีขาว สีขาวอมชมพูหรือสีม่วงอ่อน ผลแบบผลแห้งแตกลองแนวเป็นฝักแบนรูปขอบขนานแคบ เมื่ออ่อนสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่สีนํ้าตาลอมเหลืองหรือสีนํ้าตาลเข้ม เมล็ดรูปทรงรีหรือรูปกลมแป้น มี ๓-๑๐ เมล็ด สีนํ้าตาลอมแดงเข้มถึงเกือบดำ

แคฝรั่งเป็นไม้ต้น ผลัดใบ ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง ๓-๑๕ ม. แตกกิ่งตํ่า ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ได้ถึง ๕๐ ซม. เปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็กน้อยสีขาวอมเทาถึงสีนํ้าตาลอ่อน มักแตกกิ่งตั้งแต่บริเวณใกล้เคน ต้นที่โตเต็มที่มักแตกกิ่งก้านระเกะระกะ เรือนยอดโปร่ง กิ่งอ่อนมีขนและขนจะร่วงไปเมื่อต้นโตขึ้นยอดอ่อนมีขนสีนํ้าตาลเข้มเกือบดำ

 ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลายคี่ เรียงเวียนยาว ๑๕-๔๐ ซม. ก้านใบยาว ๑.๑-๑.๘ ซม. แกนกลางใบเรียวเล็ก สีเขียวอมเหลืองมีขนละเอียด ใบอ่อนมีขนสั้นนุ่มคล้ายไหม ใบย่อย ๗-๑๗ ใบ เรียงตรงข้ามยกเว้นบริเวณส่วนปลายแกนกลางใบ รูปรี รูปไข่ หรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก กว้าง ๑.๕-๓ ซม. ยาว ๓-๗ ซม. ปลายแหลมหรือเรียวแหลม โคนกลมมนหรือรูปลิ่มขอบเรียบ แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ ด้านบนสีเขียวเข้มเกลี้ยง ด้านล่างสีเขียวอมเทา มักมีขนสั้นนุ่ม ก้านใบย่อยยาวประมาณ ๕ มม.

 ช่อดอกแบบช่อกระจะ ยาว ๕-๑๕ ซม. ออกตามซอกใบหรือออกตามกิ่ง ดอกรูปดอกถั่ว เมื่อบานเต็มที่ยาวประมาณ ๒ ซม. กว้างประมาณ ๑ ซม. ก้านดอกย่อยเรียว ยาว ๐.๘-๑๒ ซม. กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ปลายหยักซี่ฟันเล็ก ๆ ๕ หยัก สีเขียวอ่อนมีแต้มสีแดงเรื่อ ๆ กลีบดอกสีขาว สีขาวอมชมพู หรือสีม่วงอ่อน กลีบกลางรูปไข่ กว้างประมาณ ๑.๔ ซม. ยาว ๑.๕-๑.๖ ซม. บานตลบไปด้านหลัง มีสีเหลืองบริเวณใกล้โคน กลีบคู่ข้างรูปขอบขนานโค้ง กว้างประมาณ ๐.๕ ซม. ยาวประมาณ ๑.๖ ซม. กลีบคู่ล่างรูปเคียวแคบ กว้างประมาณ ๐.๔ ซม. ยาวประมาณ ๑.๔ ซม. เกสรเพศผู้ ๑๐ เกสร แยกเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มหนึ่ง มี ๙ เกสร ก้านชูอับเรณูเชื่อมติดกันอีก ๑ เกสร แยก


เป็นอิสระ สีขาว มีก้านรังไข่ รังไข่อยู่เหนือวงกลีบรูปขอบขนานแคบสีแดง มี ๑ ช่อง ออวุล ๔-๑๐ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียโค้ง สีขาว ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม

 ผลแบบผลแห้งแตกสองแนว เป็นฝักแบน รูปขอบขนานแคบ กว้างประมาณ ๑.๒ ซม. ยาว ๑๐-๑๕ ซม. เมื่ออ่อนสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองหรือสีน้ำตาลเข้ม ขอบหนาเล็กน้อย มีก้านสั้น ปลายเป็นติ่งหนามสั้น ๆ เมื่อแก่จัดแตกเป็น ๒ ซีก เมล็ดรูปทรงรีหรือรูปกลมแป้น ขนาดประมาณ ๑ ซม. มี ๓-๑๐ เมล็ด เรียงเป็นแถวเดียวตามยาว สีน้ำตาลอมแดงเข้มถึงเกือบดำ เป็นมันวาว

 แคฝรั่งเป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดทางชายฝั่งแปซิฟิกของอเมริกากลาง นำเข้ามาปลูกกันเป็นเวลานานแล้วในเขตร้อนของเม็กซิโก อเมริกากลางและทางตอนเหนือของอเมริกาใต้ ที่สูงตั้งแต่ใกล้ระดับนํ้าทะเลถึงประมาณ ๑,๕๐๐ ม. สามารถเจริญเติบโตได้ดีในธรรมชาติ ต่อมานำไปปลูกในแถบแคริบเบียนและแอฟริกาตะวันตก ชาวสเปนนำไปปลูกในฟิลิปปินส์ ช่วงต้นคริสต์ศักราช ๑,๖๐๐ และนำไปปลูกที่ศรีลังกา ศตวรรษที่ ๑๘ จากนั้นจึงปลูกกันแพร่หลายทั่วไปในแถบเอเชีย ออกดอกและเป็นผลเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ผลัดใบจนหมดขณะออกดอก

 แคฝรั่งเป็นไม้โตเร็ว เหมาะสำหรับปลูกให้ร่มเงาปลูกประดับ เป็นแนวรั้ว เป็นไม้กันลม กันวัชพืช ป้องกันการพังทลายของดิน ดอกรับประทานได้ รากมีไนโตรเจนสูง ใบใช้ทำปุ๋ย เดิมนิยมปลูกเป็นไม้ให้ร่มเงาแก่ชา กาแฟ และพริกไทย.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
แคฝรั่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Gliricidia sepium (Jacq.) Kunth ex Walp.
ชื่อสกุล
Gliricidia
คำระบุชนิด
sepium
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Jacquin, Nicolaus (Nicolaas) Joseph von
- Kunth, Karl (Carl) Sigismund
- Walpers, Wilhelm Gerhard
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- Jacquin, Nicolaus (Nicolaas) Joseph von (1727-1817)
- Kunth, Karl (Carl) Sigismund (1788-1850)
- Walpers, Wilhelm Gerhard (1816-1853)
ผู้เขียนคำอธิบาย
นางปริญญนุช กลิ่นรัตน์