ตาเหินเขาเหมน

Hedychium malayanum Ridl. ex Burkill et Holttum

ไม้ล้มลุกหลายปี มักพบแตกกอห่าง มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าอวบหนาและฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อน ลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบเรียงสลับโอบซ้อนกันแน่นชูเหนือดิน ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปรี ช่อดอกแบบช่อเชิงลดหรือช่อกระจุกเชิงประกอบกึ่งช่อกระจะ ออกที่ปลายลำต้นเทียม ตั้งขึ้น รูปทรงกระบอกแคบ ดอกสีขาวถึงสีเหลือง มีกลิ่นหอม ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงรี มีใบประดับ ใบประดับย่อย และกลีบเลี้ยงขยายใหญ่ ติดทน เมล็ดรูปกระสวย จำนวนมาก

ตาเหินเขาเหมนเป็นไม้ล้มลุกหลายปี มักพบแตกกอห่าง มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าอวบหนาและฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อน ลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบเรียงสลับโอบซ้อนกันแน่นชูเหนือดิน สูงได้ถึง ๑.๒ ม. รากอวบสีขาวอมเทา มีขนาดใหญ่

 ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว มี ๔-๗ ใบ รูปรี กว้าง ๑๒-๑๘ ซม. ยาว ๒๐-๓๕ ซม. ปลายแหลมถึงเรียวแหลม โคนสอบเรียว ขอบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ด้านบนค่อนข้างเกลี้ยง ด้านล่างมีขน โดยเฉพาะตามเส้นกลางใบ เส้นกลางใบส่วนใกล้โคนเป็นร่องลึกไปถึงก้านใบ ด้านล่างนูนชัด เส้นแขนงใบจำนวนมาก เรียงค่อนข้างขนานกัน ก้านใบสั้นหรือยาว ๑.๒-๑.๕ ซม. ลิ้นใบสีเขียวอมแดง ใบล่าง ๆ มีลิ้นใบสีน้ำตาล เป็นเยื่อค่อนข้างบาง รูปขอบขนาน กว้าง ๑.๕-๒ ซม. ยาว ๓-๔.๗ ซม. ปลายค่อนข้างมน ไม่สมมาตร อาจแยกเป็นแฉก เกลี้ยง กาบใบสีเขียว ขอบสีออกแดง ค่อนข้างหนาและอวบน้ำ มีขนค่อนข้างหนาแน่น มี ๒-๔ กาบที่อยู่ใกล้โคนลำต้นเทียมไม่มีแผ่นใบ เรียงสลับโอบซ้อนกันแน่น

 ช่อดอกแบบช่อเชิงลดหรือช่อกระจุกเชิงประกอบกึ่งช่อกระจะ ออกที่ปลายลำต้นเทียม ตั้งขึ้น รูปทรงกระบอกแคบ ยาว ๑๒-๒๐ ซม. ก้านช่อดอกรูปทรงกระบอก ยาวได้ถึง ๖ ซม. เกลี้ยงหรือมีขน มีใบประดับ ๕-๖ ใบ แต่ละซอกใบประดับมี ๑-๓ ดอก ทยอยบานไปสู่ปลายช่อ ใบประดับที่โคนก้านช่อหนาคล้ายแผ่นหนัง รูปคล้ายใบ ถัดขึ้นไปมีใบประดับเรียงซ้อนเหลื่อมกันเป็นชั้น ๆ สีเขียว อาจมีขอบสีเขียวอมแดง รูปรีหรือรูปไข่ กว้างและยาว ๕-๖ ซม. ปลายแหลม ค่อนข้างเกลี้ยง ใบประดับย่อยรูปใบหอกหรือรูปขอบขนาน กว้างประมาณ ๕ มม. ยาว ๔-๕ ซม. ม้วนเป็นหลอด ปลายค่อนข้างแหลม ดอกสีขาวถึงสีเหลือง มีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว ๘-๙ ซม. ปลายแยกเป็นแฉกด้านเดียว ปลายสุดตามขอบมีขน กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดแคบ ยาวประมาณ ๑๔ ซม. ปลายแยกเป็น ๓ แฉก สีขาวหรือสีเหลือง รูปแถบแคบ กว้าง ๒-๓ มม. ยาว ๖-๖.๒ ซม. ปลายคุ่ม เกสรเพศผู้ ๖ เกสร ที่สมบูรณ์มี ๑ เกสร อับเรณูสีเหลือง ยาวประมาณ ๑.๕ ซม. ก้านชูอับเรณูสีขาวอมเหลือง ยาวประมาณ ๕.๕ ซม. เกสรเพศผู้ที่เหลืออีก ๕ เกสรเป็นหมันและเปลี่ยนรูปคล้ายกลีบดอก มี ๓ เกสรที่อยู่ตรงกลางเชื่อมติดกันและเปลี่ยนเป็นกลีบปาก สีขาวหรือสีเหลือง รูปไข่กลับ กว้างประมาณ ๔ ซม. ยาวประมาณ ๕.๕ ซม. ปลายแยกเป็นแฉกลึกประมาณ ๒.๕ ซม. ขอบเรียบหรือเป็นคลื่น โคนสอบแคบ อีก ๒ เกสรอยู่ข้างกลีบปากข้างละ ๑ เกสร แยกอิสระเป็นกลีบคู่ข้าง รูปรีแกมรูปใบหอกแคบ กว้าง ๑.๔-๑.๖ ซม. ยาว ๖.๒-๖.๖ ซม. ปลายแหลม โคนสอบเรียวคล้ายก้านกลีบ รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ รูปทรงกระบอกสั้น กว้างประมาณ ๓ มม. ยาว ๔-๗ มม. เกลี้ยง มี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก ก้านยอดเกสรเพศเมียมี ๓ ก้าน ที่สมบูรณ์ ๑ ก้าน รูปคล้ายเส้นด้าย ยอดเกสรเพศเมียคล้ายรูปถ้วยสีเขียว ขอบมีขน ก้านยอดเกสรเพศเมียที่ไม่สมบูรณ์ ๒ ก้านลดรูปเป็นติ่ง ยาว ๑-๒ มม. ติดอยู่เหนือรังไข่

 ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงรี กว้าง ๑.๓-๑.๔ ซม. ยาวประมาณ ๓.๕ ซม. มีใบประดับ ใบประดับย่อย และกลีบเลี้ยงขยายใหญ่ ติดทน เมล็ดรูปกระสวย มีจำนวนมาก

 ตาเหินเขาเหมนเป็นพืชหายากของไทย มีเขตการกระจายพันธุ์ทางภาคใต้ พบตามป่าดิบเขา ที่สูงจากระดับทะเลปานกลาง ๑,๐๐๐-๑,๓๐๐ ม. ออกดอกเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน เป็นผลเดือนกันยายนถึงธันวาคม ในต่างประเทศพบที่เวียดนามและมาเลเซีย.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ตาเหินเขาเหมน
ชื่อวิทยาศาสตร์
Hedychium malayanum Ridl. ex Burkill et Holttum
ชื่อสกุล
Hedychium
คำระบุชนิด
malayanum
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Ridley, Henry Nicholas
- Burkill, Isaac Henry
- Holttum, Richard Eric
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- Ridley, Henry Nicholas (1855-1956)
- Burkill, Isaac Henry (1870-1965)
- Holttum, Richard Eric (1895-1990)
ผู้เขียนคำอธิบาย
ดร.ปราโมทย์ ไตรบุญ