ตาเหินอ่างขาง

Hedychium tengchongense Y. B. Luo

ไม้ล้มลุกหลายปี ขึ้นบนหิน มักพบแตกกอห่าง มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้า ค่อนข้างหนาและฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อน ลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบเรียงสลับโอบซ้อนกันแน่นชูเหนือดินและเหง้า ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว มี ๖-๘ ใบ รูปรี รูปรีแกมรูปขอบขนาน รูปใบหอกกึ่งรูปไข่กว้าง พบน้อยที่เป็นรูปใบหอกกลับ ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกที่ปลายลำต้นเทียม รูปขอบขนานหรือรูปกรวยกว้างแกมรูปขอบขนาน ตั้งขึ้น ดอกสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อน ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงค่อนข้างกลม สีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีส้มอมแดง มีใบประดับ ใบประดับย่อย และกลีบเลี้ยงขยายใหญ่ ติดทน เมล็ดรูปกระสวยถึงรูปทรงกลม แต่ละผลมี ๕-๑๐ เมล็ด มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง

ตาเหินอ่างขางเป็นไม้ล้มลุกหลายปี ขึ้นบนหิน มักพบแตกกอห่าง มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้า เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๕ ซม. ค่อนข้างหนาและฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อน ลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบเรียงสลับโอบซ้อนกันแน่นชูเหนือดินและเหง้า สูง ๖๐-๘๐ ซม.

 ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว มี ๖-๘ ใบ รูปรี รูปรีแกมรูปขอบขนาน รูปใบหอกกึ่งรูปไข่กว้าง พบน้อยที่เป็นรูปใบหอกกลับ กว้าง ๑๑-๑๘ ซม. ยาว ๒๘-๓๕ ซม. ปลายเรียวแหลมถึงยาวคล้ายหาง โคนรูปลิ่มหรือสอบเรียว ขอบเป็นคลื่น แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง เกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน เส้นกลางใบเป็นร่องตื้นทางด้านบน ส่วนใกล้โคนเป็นร่องลึกไปถึงก้านใบ นูนเด่นชัดทางด้านล่าง เส้นแขนงใบจำนวนมาก เรียงค่อนข้างขนานกัน ก้านใบยาวได้ถึง ๑ ซม. หรือไร้ก้าน ลิ้นใบสีแดง เป็นเยื่อค่อนข้างบางและโปร่งแสง รูปขอบขนาน กว้างประมาณ ๒ ซม. ยาว ๒.๕-๒.๘ ซม. ปลายมนหรือตัด เกลี้ยง กาบใบสีออกเขียว ตามขอบกาบสีแดง ค่อนข้างหนาและอวบน้ำ มี ๒-๓ กาบที่อยู่ใกล้โคนลำต้นเทียมไม่มีแผ่นใบ กาบที่อยู่เหนือขึ้นไปยาวได้ถึง ๘๐ ซม. เรียงสลับโอบซ้อนกันแน่น

 ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกที่ปลายลำต้นเทียม รูปทรงกระบอกหรือรูปกรวยกว้างแกมรูปขอบขนาน ตั้งขึ้น ยาว ๑๗-๒๕ ซม. มี ๒๐-๗๐ ดอก ก้านช่อดอกรูปทรงกระบอก ยาว ๑-๕ ซม. ใบประดับที่โคนก้านช่อดอกหนาคล้ายแผ่นหนัง รูปคล้ายใบ ถัดขึ้นไปมีใบประดับจำนวนมากอยู่ค่อนข้างห่าง สีเขียว รูปใบหอก


กว้าง ๖-๖.๕ มม. ยาว ๒-๓ ซม. ม้วนเป็นหลอดรูปกรวย ปลายแหลมหรือมน มักมีสีแดงอ่อน เกลี้ยง ใบประดับย่อยสีเขียว รูปใบหอก กว้าง ๔.๕-๕ มม. ยาว ๑.๓-๑.๘ ซม. ม้วนเป็นหลอด ปลายแหลม เกลี้ยง แต่ละซอกใบประดับมี ๑ ดอก ทยอยบานไปสู่ปลายช่อ ดอกสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อน กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด กว้างและยาวประมาณ ๒ มม. ปลายแยกเป็นแฉกด้านเดียว ปลายสุดหยักซี่ฟัน ๓ หยัก เกลี้ยง กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดแคบ กว้างประมาณ ๒ มม. ยาว ๓.๕-๔ ซม. สีเหลืองอ่อน เกลี้ยง ปลายแยกเป็น ๓ แฉก สีเหลืองอ่อน แต่ละแฉกรูปแถบ กว้างประมาณ ๑.๕ มม. ยาวประมาณ ๔ ซม. ปลายคุ่ม อาจมีสีชมพูอมแดง เกสรเพศผู้ ๖ เกสร ที่สมบูรณ์มี ๑ เกสร อับเรณูสีส้มอมแดง กว้างประมาณ ๒.๕ มม. ยาว ๘-๙ มม. ก้านชูอับเรณูสีส้มอมแดง บริเวณโคนสีเหลือง ยาว ๓.๕-๔.๕ ซม. เกสรเพศผู้ที่เหลืออีก ๕ เกสรเป็นหมันและเปลี่ยนรูปคล้ายกลีบดอก มี ๓ เกสรที่อยู่ตรงกลางเชื่อมติดกันและเปลี่ยนเป็นกลีบปาก สีเหลืองอ่อน รูปรีแคบ กว้าง ๖-๗ มม. ยาว ๓-๓.๕ ซม. ปลายแยกเป็นแฉกรูปแถบหรือรูปใบหอกแคบ ปลายแหลม โคนสอบเรียว ขอบเรียบหรือเป็นคลื่น อีก ๒ เกสรอยู่ข้างกลีบปากข้างละ ๑ เกสร แยกอิสระเป็นกลีบคู่ข้าง รูปแถบแคบหรือรูปใบหอกกลับแกมรูปแถบ กว้าง ๑.๕-๒ ซม. ยาว ๒.๘-๓.๕ ซม. รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ รูปทรงเกือบกลม กว้างและยาว ๒.๒-๓.๕ มม.

มี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก ก้านยอดเกสรเพศเมียมี ๓ ก้าน ที่สมบูรณ์มี ๑ ก้าน รูปคล้ายเส้นด้าย ยาวประมาณ ๔.๕ ซม. ยอดเกสรเพศเมียคล้ายรูปถ้วยสีแดง ขอบมีขน ก้านยอดเกสรเพศเมียที่ไม่สมบูรณ์อีก ๒ ก้านลดรูปเป็นติ่ง ยาวประมาณ ๑.๕ มม. สีเหลือง ติดอยู่เหนือรังไข่

 ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงค่อนข้างกลม กว้างและยาว ๑-๑.๓ ซม. สีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีส้มอมแดง เกลี้ยง มีใบประดับ ใบประดับย่อย และกลีบเลี้ยงขยายใหญ่ ติดทน เมล็ดรูปกระสวยถึงรูปทรงกลม แต่ละผลมี ๕-๑๐ เมล็ด เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒.๕ มม. มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง

 ตาเหินอ่างขางมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ พบตามภูเขาหินปูน ที่สูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ ๑,๓๕๐ ม. ออกดอกเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน เป็นผลเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ในต่างประเทศพบที่จีน.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ตาเหินอ่างขาง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Hedychium tengchongense Y. B. Luo
ชื่อสกุล
Hedychium
คำระบุชนิด
tengchongense
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Luo, Yi Bo
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (1964-)
ผู้เขียนคำอธิบาย
ดร.ปราโมทย์ ไตรบุญ