ชำมะนาด

Vallaris glabra (L.) Kuntze

ชื่ออื่น ๆ
ชมนาด, ชำมะนาดกลาง (กลาง); ชำมะนาดฝรั่ง, ดอกข้าวใหม่ (กรุงเทพฯ); อ้มสำย (เหนือ)
ไม้รอเลื้อย ทุกส่วนมียางสีขาว ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรี ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามซอกใบดอกมีกลิ่นหอมแรง สีขาว สีนวล สีเหลืองอ่อน หรือสีขาวแกมเขียว ผลแบบผลแห้งแตกแนวเดียวเมล็ดรูปทรงรี มีขนสีขาวเป็นพู่ที่ปลาย

 ชำมะนาดเป็นไม้รอเลื้อย ทุกส่วนมียางสีขาวตามกิ่งก้านมีช่องอากาศเป็นจุดกลมเล็ก ๆ กระจายทั่วไป กิ่งแขนงเกลี้ยงหรือมีขนประปราย

 ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรี กว้าง ๔-๙.๕ ซม.ยาว ๖-๑๗ ซม. ปลายเป็นติ่งแหลมอ่อน เว้าตื้น กลมหรือเรียวแหลมสั้น ๆ โคนมน สอบเรียว หรือเป็นรูปลิ่ม ขอบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบค่อนข้างบาง เกลี้ยงหรือมีขนตามเส้นกลางใบและเส้นแขนงใบ เส้นแขนงใบข้างละ ๗-๑๐ เส้น ก้านใบยาว ๐.๕-๓ ซม. ต่อมที่ซอกโคนก้านใบรูปเรียวยาว

 ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามซอกใบ ทั้งช่อยาว ๓-๑๐ ซม. ก้านช่อดอกสั้น บางครั้งเชื่อมติดกับกิ่งเล็กน้อย แกนช่อมีขนทั่วไป ใบประดับรูปใบหอก กว้าง ๑.๕-๒ มม. ยาว ๔-๗ มม. ปลายแหลมหรือเรียวแหลม ดอกมีกลิ่นหอมแรงและมีจำนวนมาก ก้านดอกยาว ๑.๓-๑.๕ ซม. กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วยตื้น ๆ ปลายแยกเป็น ๕ แฉก รูปไข่ถึงรูปแถบ กว้าง ๑.๑-๑.๗ มม. ยาว ๔-๖ มม. ปลายแหลมแผ่ออกหรือโค้งกลับลงมา ด้านนอกมีขน กลีบดอกสีขาว สีนวล สีเหลืองอ่อน หรือสีขาวแกมเขียว


ดอกตูมรูปไข่ แฉกกลีบดอกเรียงเวียนซ้อนไปทางขวา ดอกบานรูปแตร เส้นผ่านศูนย์กลาง ๑.๕-๒ ซม. กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว ๕-๘.๕ มม. พองออกที่บริเวณกึ่งกลาง ปลายแยกเป็น ๕ แฉก รูปไข่กว้าง กว้าง ๐.๗-๑.๕ ซม. ยาว ๐.๕-๑.๒ ซม. ปลายเรียวแหลม ขอบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ด้านนอกมีขนทั่วไป ยกเว้นบริเวณโคนแฉก เกสรเพศผู้ ๕ เกสร เชื่อมติดที่ผนังด้านในของหลอดกลีบดอกบริเวณที่หลอดพองออก ก้านชูอับเรณูอวบหนา ยาว ๒-๔ มม. มีขนยาวจำนวนมาก ที่ปลายด้านนอกตรงบริเวณรอยต่อระหว่างก้านชูอับเรณูกับอับเรณูมีต่อม รูปค่อนข้างกลม สีขาว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒ มม. อับเรณูรูปสามเหลี่ยมแคบ กว้างประมาณ ๑.๓ มม. ยาวประมาณ ๔.๕ มม. โคนรูปหัวลูกศรโค้งเล็กน้อย ยาว ๑.๒-๑.๕ มม. ปลายแหลมหรือเรียวแหลม อับเรณูโค้งมาชิดกันเป็นรูปโดมคลุมยอดเกสรเพศเมีย จานฐานดอกมี ๕ แฉก ล้อมรอบและสูงใกล้เคียงกับรังไข่ มีขนที่บริเวณด้านบน รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ยาว ๑-๒ มม. มีขนหนาแน่น มี ๒ รังไข่โคนเชื่อมติดกัน ส่วนที่เหนือขึ้นไปแยกจากกันเป็นอิสระ แต่ละรังไข่มี ๑ ช่อง ออวุลจำนวนมาก ก้านยอดเกสรเพศเมียยาว ๕-๗ มม. มีขน ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่มปลายแหลม ยาว ๑.๕-๒ มม. มีขนสั้นประปราย

 ผลแบบผลแห้งแตกแนวเดียว ออกเป็นคู่โคนเชื่อมติดกันคล้ายเขาวัว เนื้อผลนุ่ม เมื่อผลแก่จะแตกตามแนวยาว ภายในมีเมล็ดจำนวนมากรูปทรงรี มีขนสีขาวเป็นพู่ที่ปลาย

 ชำมะนาดเป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดในอินโดนีเซีย นำเข้ามาปลูกเป็นไม้ประดับในประเทศไทย ออกดอกเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมมักไม่ติดผล

 ประโยชน์ ดอกมีกลิ่นคล้ายกลิ่นใบเตย ใช้ทำน้ำอบไทยดอกไม้สด เป็นเครื่องอบในแป้งร่ำ และเครื่องหอมต่าง ๆ นอกจากนี่ยังใช้ประกอบอาหารไทย เช่น น้ำสำหรับข้าวแช่ อบร่ำขนมไทย หรืออาจใช้น้ำดอกชำมะนาดหุงข้าวสวยให้มีกลิ่นหอม ยางใช้รักษาแผล.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ชำมะนาด
ชื่อวิทยาศาสตร์
Vallaris glabra (L.) Kuntze
ชื่อสกุล
Vallaris
คำระบุชนิด
glabra
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Linnaeus, Carl
- Kuntze, Carl Ernst Otto
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- Linnaeus, Carl (1707-1778)
- Kuntze, Carl Ernst Otto (1843-1907)
ชื่ออื่น ๆ
ชมนาด, ชำมะนาดกลาง (กลาง); ชำมะนาดฝรั่ง, ดอกข้าวใหม่ (กรุงเทพฯ); อ้มสำย (เหนือ)
ผู้เขียนคำอธิบาย
ดร.อรุณรัตน์ คิดอยู่ และ รศ. ดร.มานิต คิดอยู่