ขี้หนอนควาย

Gironniera nervosa Planch.

ชื่ออื่น ๆ
ขนหนอน (ปัตตานี); เขากวาง (นครศรีธรรมราช); จาม (ตราด); จำปาป่า (ระยอง); เชน,
ไม้ต้น ใบเรียงเวียน รูปรีแกมรูปใบหอกถึงรูปรีแกมรูปขอบขนาน ดอกแยกเพศร่วมต้น ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามง่ามใบ ดอกสีนวล ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง รูปไข่หรือรูปไข่ป้อม ค่อนข้างแบน แก่จัดสีเหลือง

ขี้หนอนควายเป็นไม้ต้น สูงได้ถึง ๔๐ ม. ลำต้นอาจมีพอนต่ำ ๆ เปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็ก ๆ สีเขียวอมเทาถึงน้ำตาลเข้มอมเทา มีรอยด่างเป็นวงกลมเล็ก ๆ และมีช่องอากาศสีน้ำตาลทั่วไป ตายอดมีขนาดใหญ่ กว้าง ๓-๕ มม. ยาว ๑-๒ ซม.

 ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปรีแกมรูปใบหอกถึงรูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง ๔-๖ ซม. ยาว ๑๐-๑๕ ซม. ปลายมนถึงแหลม โคนมนหรือเป็นครีบ สองข้างไม่เท่ากัน ขอบเรียบและม้วนลง เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบด้านบนเรียบหรือเป็นร่อง มีขน ด้านล่างนูนมองเห็นชัดเจน มีขนนุ่มสีน้ำตาลอมเหลือง เส้นแขนงใบข้างละ ๑๔-๑๖ เส้น เส้นใบย่อยเรียงคล้ายขั้นบันได นูนเห็นชัดทางด้านล่าง ก้านใบยาว ๐.๕-๑ ซม. มีขนราบสีน้ำตาลอมเหลือง หูใบกว้าง ๓-๕ มม. ยาว ๑.๕-๒ ซม.

 ดอกแยกเพศร่วมต้น ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามง่ามใบ สีนวล ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียอยู่ต่างกิ่งกัน ใบประดับรูปไข่แคบปลายแหลม มีขนราบสีน้ำตาลอมเหลือง ดอกเพศผู้กลม ออกเป็นกระจุกตามแกนช่อดอกกระจุกหนึ่ง ๕-๑๐ ดอก วงกลีบรวม ๕ กลีบ เรียงซ้อนเหลื่อม กลีบรูปไข่กว้างปลายแหลม กว้างประมาณ ๑ มม. ยาว ๑-๒ มม. ด้านนอกมีขนราบหนาแน่น ดอกเพศเมียวงกลีบรวม ๕ กลีบ รังไข่อยู่หนือวงกลีบ มี ๑ ช่อง มีออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียปลายแยกเป็น ๒ แฉก

 ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง รูปไข่หรือรูปไข่ป้อม ค่อนข้างแบน กว้าง ๔-๖ มม. ยาว ๕-๘ มม. หนา ๓-๔ มม. มีขนราบหนาแน่น และมีก้านยอดเกสรเพศเมียซึ่งเปราะติดอยู่ ช่อผลยาวได้ถึง ๓ ซม. มี ๔-๖ ผล ผลแก่จัดสีเหลือง

 ขี้หนอนควายมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคใต้และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ขึ้นใกล้ลำธารในป่าดิบ ในต่างประะเทศพบที่ภูมิภาคอินโดจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ขี้หนอนควาย
ชื่อวิทยาศาสตร์
Gironniera nervosa Planch.
ชื่อสกุล
Gironniera
คำระบุชนิด
nervosa
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Planchon, Jules É mile
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (1823-1888)
ชื่ออื่น ๆ
ขนหนอน (ปัตตานี); เขากวาง (นครศรีธรรมราช); จาม (ตราด); จำปาป่า (ระยอง); เชน,
ผู้เขียนคำอธิบาย
นางลีนา ผู้พัฒนพงศ์