กระเช้าภูเก็ต

Aristolochia curtisii King

ไม้เถา ใบเรียงเวียน เป็นแฉกลึก ๓ แฉก แฉกกลางปลายแหลม แฉกข้างปลายมน ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามง่ามใบ ดอกสีน้ำเงินเข้ม ใบประดับสีแดง ผลแบบผลแห้งแตกรูปขอบขนาน มี ๖ สัน เมื่อแก่แตกเป็นรูปคล้ายกระเช้า

กระเช้าภูเก็ตเป็นไม้เถา ใบเดี่ยว เรียงเวียน แผ่นใบเป็นแฉกลึก ๓ แฉก แฉกกลางรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ปลายแหลม ยาวกว่าแฉกข้าง มีเส้นแขนงใบตามยาว ๓ เส้น แฉกข้างรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ปลายมน โค้งเข้าหากันเล็กน้อย มีเส้นแขนงใบตามยาว ๒ เส้น แฉกกว้าง ๓-๔ ซม. ยาว ๙-๑๑.๕ ซม. ก้านใบยาว ๔-๗.๕ ซม.

 ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามง่ามใบ ๑-๒ ช่อ ยาว ๕-๗ ซม. ใบประดับสีแดง รูปไข่ถึงรูปหัวใจ ยาว ๐.๕-๑.๗ ซม. โคนโอบหุ้มแกนช่อดอก แต่ละช่อมี ๒-๓ ดอก ดอกสีน้ำเงินเข้ม ก้านดอกยาว ๓-๔ มม. วงกลีบรวมติดกัน ยาว ๔-๕ ซม. โคนเป็นกระเปาะรูปไข่แคบ กว้าง ๖-๗ มม. ยาว ๑.๓-๑.๕ ซม. เหนือกระเปาะเป็นหลอดรูปทรงกระบอกสั้นกว้าง ๑-๒ มม. ยาว ๔-๖ มม. ปลายแผ่ออกคล้ายหัวลูกศรกว้าง ๐.๖-๑ ซม. ยาว ๒-๒.๕ ซม. เกสรเพศผู้ ๖ อัน ติด อยู่รอบเส้าเกสรที่กว้าง ๒-๓ มม. ยาวประมาณ ๑ มม. อับเรณูรูปขอบขนานกว้างหรือค่อนข้างกลม ยาวประมาณ ๑ มม. รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ กว้างประมาณ ๑ มม. ยาว ๕-๖ มม. มี ๖ ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น ๖ แฉก รูปกรวยเล็ก

 ผลแบบผลแห้งแตก รูปขอบขนาน กว้าง ๑.๕-๑.๗ ซม. ยาว ๓-๓.๕ ซม. มี ๖ สัน ปลายเป็นติ่งหนาม โคนรูปลิ่มก้านผลยาวประมาณ ๒ ซม. เมื่อแก่แตกเป็นรูปคล้ายกระเช้าเมล็ดรูปไข่ถึงรูปไข่แกมรูปสามเหลี่ยม สีน้ำตาลอ่อน กว้างประมาณ ๔ มม. ยาวประมาณ ๕ มม. ไม่มีปีก มีตุ่มทั้ง ๒ ด้าน

 กระเช้าภูเก็ตมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยที่ จ. ภูเก็ต บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล ๒๕๐-๔๔๐ ม. ในต่างประเทศพบที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
กระเช้าภูเก็ต
ชื่อวิทยาศาสตร์
Aristolochia curtisii King
ชื่อสกุล
Aristolochia
คำระบุชนิด
curtisii
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- King, George
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (1840-1909)
ผู้เขียนคำอธิบาย
นางลีนา ผู้พัฒนพงศ์