กระจาน

Amomum testaceum Ridl.

ชื่ออื่น ๆ
กระวานขาว, กระวานดำ, กระวานโพธิสัตว์; ปล้าก้อ (ปัตตานี)
ไม้ล้มลุก เหง้าทอดไปตามดิน ใบรูปขอบขนาน กาบใบหุ้มซ้อนเป็นลำต้นเทียม ช่อดอกแบบช่อเชิงลด รูปกรวยออกจากเหง้า มีใบประดับเรียงเวียนซ้อนสลับตลอดช่อ ในซอกใบประดับจะมีดอกสีเหลืองอ่อนหรือขาวยื่นพ้นซอกใบประดับออกมา ผลแบบผลแห้งแตก มี ๓ พู สีนวล

กระวานเป็นไม้ล้มลุก มีเหง้า กาบใบหุ้มซ้อนกันเป็นลำต้นเทียม สูง ๑.๕-๒ ม.

 ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปขอบขนาน กว้าง ๖-๑๐ ซม. ยาว ๑๕-๒๕(-๕๐) ซม. ปลายแหลม

 ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกจากเหง้าชูขึ้นมาเหนือพื้นดิน รูปทรงกระบอก ยาว ๖-๑๕ ซม. ก้านช่อดอกยาว ๕-๑๕ ซม. ใบประดับสีเหลืองนวล มีขนคาย เรียงซ้อนสลับกันตลอดช่อในซอกใบประดับมีดอก ๑-๓ ดอก กลีบเลี้ยงโคนติดกัน ปลายมี ๓ หยัก กลีบดอกสีเหลือง เป็นหลอดแคบ เกสรเพศผู้เป็นหมันแปรสภาพเป็นกลีบขนาดใหญ่ สีขาว มีแถบสีเหลืองตรงกลาง เกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์ ๑ อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ ๘ มม. อับเรณูรูปสี่เหลี่ยม กว้างประมาณ ๔ มม. ยาวประมาณ ๕ มม. ปลายแกนอับเรณูเป็น ๓ ปีก ปีกกลางมันยาวประมาณ ๒ มม. ปีกข้างรูปสี่เหลี่ยม ปลายมนหรือตัด กว้างประมาณ ๓ มม. ยาวประมาณ ๕ มม. รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีออวุลมาก

 ผลแบบผลแห้งแตก ค่อนข้างกลม สีนวล มี ๓ พู ผลอ่อนมีขนและจะร่วงไปเมื่อแก่ มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมากเมล็ดอ่อนสีขาว มีเยื่อหุ้ม เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีดำ ทั้งผลและเมล็ดมีกลิ่นหอม

 ผลกระวานมีกลิ่นหอมคล้ายการบูร มีพิมเสนร้อยละ ๒๒.๕ เมื่อนำน้ำมันหอม ๘๐๐ กรัม มาปั่นแยกจะได้ส่วนที่เป็นของแข็งหนัก ๑๐๐ กรัม ซึ่งประกอบด้วย (+)-borneol และ (+)-camphor อย่างละเท่า ๆ กัน

 หน่อและช่อดอกอ่อนกินได้ ผลกระวานใช้เป็นเครื่องเทศแต่งกลิ่นอาหารหลายชนิด และใช้แต่งกลิ่นเหล้า ในทางยาใช้เป็นยาขับลม เป็นส่วนผสมในยาถ่ายเพื่อบรรเทาอาการใช้ท้อง

 กระวานเป็นพืชแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้นในที่ร่มที่มีความชื้นสูงมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม ในประเทศไทยพบในป่า แถบเขาสอยดาว จ.จันทบุรี และทางตอนใต้ของ อ. อุ้มผาง จ. ตาก ลงไปถึงภาคใต้ กระวานจากประเทศไทยเป็นที่รู้จักของชาวยุโรปมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๗.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
กระจาน
ชื่อวิทยาศาสตร์
Amomum testaceum Ridl.
ชื่อสกุล
Amomum
คำระบุชนิด
testaceum
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Ridley, Henry Nicholas
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (1855-1956)
ชื่ออื่น ๆ
กระวานขาว, กระวานดำ, กระวานโพธิสัตว์; ปล้าก้อ (ปัตตานี)
ผู้เขียนคำอธิบาย
ศ. ดร.พยอม ตันติวัฒน์