ไม้น้ำปีเดียวหรือหลายปี ขนาดเล็ก อยู่ใต้น้ำหรือเลื้อยทอดนอน ลำต้นเรียว ลอยติดกันเป็นแพ ใบเดี่ยว เรียงตรง ข้ามสลับตั้งฉาก มักเรียงเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง แผ่นใบตามลำต้นรูปรีแคบหรือรูปช้อนเว้าตื้น แผ่นใบตามปลาย กิ่งรูปรีกว้างถึงรูปเกือบกลม ดอกแยกเพศร่วมต้น ออกเดี่ยวตามซอกใบ ดอกเล็กสีขาว ไร้กลีบ ผลแบบผลแยก แล้วแตก รูปครึ่งวงกลมหรือรูปทรงค่อนข้างกลม สีน้ำตาลอ่อน ขอบผลมีปีกและเป็นร่อง เมล็ดขนาดเล็ก
ดาวน้ำชนิดนี้เป็นไม้น้ำปีเดียวหรือหลายปี ขนาดเล็ก อยู่ใต้น้ำหรือเลื้อยทอดนอน ลำต้นเรียว ยาวได้ถึง ๖ ซม. ลอยติดกันเป็นแพ
ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก มักเรียงเป็น กระจุกที่ปลายกิ่ง แผ่นใบตามลำต้นรูปรีแคบหรือรูปช้อน เว้าตื้น กว้างและยาว ๑-๒ ซม. แผ่นใบตามปลายกิ่งรูปรี กว้างถึงรูปเกือบกลม มีขนาดเล็กกว่า ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ เส้นแขนงใบประมาณ ๕ เส้น
ดอกแยกเพศร่วมต้น ออกเดี่ยวตามซอกใบ ใบ ประดับย่อยมี ๒ ใบ รูปเคียว ติดทน ดอกขนาดเล็ก สีขาว ไร้กลีบ ดอกเพศผู้มีเกสรเพศผู้ ๑ เกสร ยาว ประมาณ ๒ ซม. ดอกเพศเมียรังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มี ๔ ช่อง แต่ละช่องมีออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมีย มี ๒ ก้าน รูปคล้ายเส้นด้าย ตั้งตรง ยอดเกสรเพศเมียมี ขนาดเล็ก
ผลแบบผลแยกแล้วแตก รูปครึ่งวงกลมหรือรูป ทรงค่อนข้างกลม ขนาด ๑-๒ มม. สีน้ำตาลอ่อน ขอบผล มีปีกและเป็นร่อง เมล็ดขนาดเล็ก
ดาวน้ำชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศ ไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ จืดและที่ชื้นแฉะ ที่สูงจากระดับทะเลประมาณ ๑,๑๐๐ ม. ในต่างประเทศพบที่ทวีปยุโรปและตอนเหนือของทวีป แอฟริกา มีการนำไปปลูกเป็นไม้น้ำประดับและกระจาย ไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติจนกลายเป็นวัชพืชร้ายแรงใน หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย.