ตังหน ๓

Calophyllum tetrapterum Miq.

ไม้ต้น ทุกส่วนมียางใสสีเหลืองคล้ายน้ำผึ้ง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปรีแกมรูปขอบขนานหรือรูปรีถึงรูปไข่กลับ เส้นแขนงใบจำนวนมาก เรียงถี่ขนานกัน ช่อดอกแบบช่อกระจุกหรือแบบช่อแยกแขนง ออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกสีขาว ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง ทรงรูปไข่กว้างถึงรูปทรงกลม สุกสีเขียวเข้มเกือบดำ เมล็ดรูปคล้ายผล

ตังหนชนิดนี้เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง ๒๕ ม. บางครั้งมีพูพอนขนาดเล็ก ทุกส่วนมียางใสสีเหลืองคล้ายน้ำผึ้ง

 ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปรีแกมรูปขอบขนานหรือรูปรีถึงรูปไข่กลับ กว้าง ๒-๓.๕ ซม. ยาว ๓.๕-๑๐ ซม. ปลายแหลมถึงเรียวแหลม โคนรูปลิ่มถึงสอบเรียว ขอบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง เกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน เส้นแขนงใบจำนวนมาก เรียงถี่ขนานกัน ก้านใบยาว ๐.๕-๑.๕ ซม.

 ช่อดอกแบบช่อกระจุกหรือแบบช่อแยกแขนงออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ยาว ๑.๕-๔.๕ ซม. ช่อดอกมีขนสั้นนุ่ม มี ๓-๑๑ ดอก ก้านดอกยาว ๐.๕-๒.๕ ซม. ดอกสีขาว กลีบรวม ๔-๘ กลีบ เรียงเป็นวง ๒-๔ ชั้น กลีบรวมคู่นอกรูปไข่ถึงค่อนข้างกลม กว้าง ๓-๔ มม. ยาว ๓-๕ มม. ด้านนอกเกลี้ยงหรือมีขนสั้นนุ่มที่ปลายและขอบกลีบ กลีบรวมคู่ถัดไปรูปไข่กลับหรือรูปลิ้น กว้าง ๓-๕ มม. ยาว ๔-๘ มม. ด้านนอกเกลี้ยง กลีบรวมคู่ในสุด ๒ คู่มีรูปร่างและขนาดใกล้เคียงกัน รูปไข่กลับหรือรูปลิ้นกว้าง ๒-๓ มม. ยาว ๕-๗ มม. หรือกลีบรวมคู่ในสุดรูปใบหอกกลับแกมรูปรี กว้าง ๑-๑.๕ มม. ยาว ๕-๖ มม. เกสรเพศผู้ ๓๖-๘๖ เกสร ก้านชูอับเรณูเรียวยาว อับเรณูติดที่ฐาน มี ๒ พู รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปทรงค่อนข้างกลมยาว ๑-๒ มม. เกลี้ยง มี ๑ ช่อง มีออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียเรียวยาว ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม

 ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง ทรงรูปไข่กว้างถึงรูปทรงกลม ยาว ๐.๕-๑ ซม. สุกสีเขียวเข้มเกือบดำเมล็ดรูปคล้ายผล

 ตังหนชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคตะวันออกและภาคใต้ พบตามป่าพรุและป่าดิบชื้นโดยเฉพาะใกล้แหล่งน้ำที่สูงตั้งแต่ใกล้ระดับทะเลปานกลางถึงประมาณ ๑๕๐ ม. ออกดอกเดือนกันยายนถึงมกราคม เป็นผลเดือนมกราคมถึงเมษายนในต่างประเทศพบที่เวียดนาม กัมพูชา จนถึงบอร์เนียว

 ประโยชน์ ใบอ่อนรับประทานได้.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ตังหน ๓
ชื่อวิทยาศาสตร์
Calophyllum tetrapterum Miq.
ชื่อสกุล
Calophyllum
คำระบุชนิด
tetrapterum
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Miquel, Friedrich Anton Wilhelm
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (1811-1871)
ผู้เขียนคำอธิบาย
ผศ. ดร.สราวุธ สังข์แก้ว และ ดร.อัจฉรา ตีระวัฒนานนท์