จันทน์กะพ้อเป็นไม้ต้น สูง ๑๐-๑๕ ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ลำต้นเปลาตรง อาจคดงอเล็กน้อยเปลือกเรียบ สีน้ำตาลเข้มหรือสีน้ำตาลแกมเทา เปลือกในสีชมพูอ่อน แก่นสีเหลืองซีด กิ่งอ่อนมีขนสั้นสีน้ำตาลอมแดงหรือสีสนิมหนาแน่น กิ่งแก่เกลี้ยง
ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก กว้าง ๒.๕-๘ ซม. ยาว ๑๐-๒๕ ซม. ปลายเรียวแหลม โคนรูปลิ่ม ขอบเรียบ แผ่นใบบางคล้ายกระดาษเกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน เส้นกลางใบนูนทั้ง ๒ ด้าน เส้นแขนงใบข้างละ ๑๕-๒๒ เส้น เส้นใบย่อยแบบร่างแหแกมขั้นบันได ก้านใบยาว ๑-๒ ซม. หูใบเล็ก ร่วงง่าย
ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตามปลายกิ่งหรือตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาว ๔-๕ ซม. มีขนสั้นหนาแน่น ดอกตูมรูปใบหอก ยาว ๑-๑.๕ ซม. มีขนหนาแน่น ดอกบานมีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยง ๕ กลีบ โคนเชื่อมติดกันเล็กน้อย รูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว ๔-๕ มม. ปลายเรียวแหลม มีขนสั้นสีน้ำตาลอมแดงหนาแน่นทั้ง ๒ ด้าน กลีบดอก ๕ กลีบ สีขาวหรือสีนวล เรียงซ้อนกันแบบบิดเวียน รูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับหรือรูปใบหอก ยาว ๑.๕-๑.๗ ซม. ร่วงง่าย เกสรเพศผู้ ๑๕ เกสร เรียงเป็น ๒ วง อับเรณูรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาวประมาณ ๑ มม. รังไข่อยู่กึ่งใต้วงกลีบ รูปค่อนข้างกลม
ผลแบบผลแห้งไม่แตก ทรงรูปไข่หรือรูปค่อนข้างกลม กว้างประมาณ ๒.๕ ซม. ยาวประมาณ ๓ ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม เปลือกแข็งคล้ายไม้ หนา ๒-๓ มม. ผิวเรียบ มีขุยสีน้ำตาลแกมแดงหนาแน่น มีกลีบเลี้ยงติดทน รูปไข่ หยิกงอเล็กน้อย ปลายเรียวแหลม กว้างประมาณ ๗ มม. ยาวประมาณ ๑ ซม. มีขนสั้น โคนเชื่อมติดกันและซ้อนเหลื่อมกันเล็กน้อย มี ๑ เมล็ด
จันทน์กะพ้อมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคกลางและภาคใต้ พบขึ้นตามป่าบึงน้ำจืดหรือป่าดิบชื้น ที่สูงจากระดับทะเลไม่เกิน ๑๐๐ ม. ออกดอกเดือนมกราคมถึงเมษายน เป็นผลเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม ภาคกลางนิยมปลูกจันทน์กะพ้อเป็นไม้ดอกหอมในต่างประเทศพบที่เวียดนามตอนบน.