ช่อครามน้ำเป็นไม้น้ำล้มลุกหลายปี สูง ๐.๓-๑ ม. ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้า ลำต้นเหนือดินเป็นกอแตกจากเหง้าแบบสลับ ๒ แถว
ใบเดี่ยว เรียงเวียนเป็นกระจุก แผ่นใบอยู่เหนือน้ำ รูปรีถึงรูปไข่หรือรูปใบหอก กว้าง ๗-๙ ซม. ยาว ๑๕-๒๒ ซม. ปลายแหลมหรือมน โคนหยักเว้ารูปหัวใจ ขอบเรียบ แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมันด้านล่างสีอ่อนกว่า เส้นใบขนานกันตามแนวยาว
ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกเดี่ยว ๆ ที่ปลายลำต้น ก้านช่อยาว ๘-๑๐ ซม. มีกาบหุ้ม ช่อดอกรูปทรงกระบอก กว้าง ๓-๕ ซม. ยาว ๑๒-๒๐ ซม. มีดอก ๒๐๐-๔๐๐ ดอก สีม่วงคราม สีขาว สีชมพูหรือสีน้ำเงิน ไม่มีก้านดอก ใบประดับย่อยรูปรี มีขนทางด้านนอก ดอกเรียงกันแน่นบนแกนช่อ ดอกกว่าง ๑-๑.๔ ซม. ยาว ๑-๑.๕ ซม. กลีบรวมโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น ๖ แฉก เรียง ๒ ชั้น แฉกชั้นในที่อยู่ด้านบนของดอกมี ๑ แฉก ขนาดใหญ่สุดมีแต้มสีขาวแกมเหลืองและมีขนนุ่ม เกสรเพศผู้ ๖ เกสร สั้น ๓ เกสร ยาว ๓ เกสร รังไข่อยู่เหนือวงกลีบมี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียเรียวยาว ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น ๓ แฉกสีม่วงอ่อน
ผลแบบผลกระเปาะ ขนาดเล็ก ลักษณะเป็นถุงบาง มีครีบ ภายในมี ๑ เมล็ด
ช่อครามน้ำเป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา ยุโรป อินเดีย และออสเตรเลียนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยเป็นไม้ประดับ ออกดอกและเป็นผลเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ.