จั๋งชนิดนี้เป็นปาล์มกอ สูง ๑-๓ ม. แตกกอค่อนข้างโปร่ง ลำต้นใต้ดินทอดเลื้อย ลำต้นเหนือดินตั้งตรงมีกาบใบและรกติดทน เส้นผ่านศูนย์กลางรวมกาบใบ ๑.๕-๒.๕ ซม.
ใบรูปฝ่ามือ เรียงเวียน แผ่กว้างออกเป็นรูปครึ่งวงกลม กว้างประมาณ ๓๐ ซม. ตั้งชูขึ้น ขอบหยักลึกเป็นแฉก ๒-๑๓ แฉก เชื่อมติดกันที่โคน ๕-๘ ซม. แต่ละแฉกรูปแถบยาว กว้างได้ถึง ๗ ซม. ยาวได้ถึง ๔๐ ซม. ปลายตัดและมีรอยหยักซี่ฟัน ขอบแฉกเรียบ แผ่นใบโค้ง
ดอกแยกเพศต่างต้น ช่อดอกแบบช่อแยกแขนงออกตามซอกกาบใบใกล้ยอด ช่อดอกแตกกิ่ง ๒-๓ กิ่ง แกนกลางช่อยาวได้ถึง ๒๖ ซม. แกนกลางช่อย่อยยาวได้ถึง ๑๑ ซม. เกลี้ยง ดอกเพศผู้ยาวได้ถึง ๖ มม. สีเหลือง ไม่มีก้านดอก กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น ๓ แฉก กลีบดอกโคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น ๓ แฉก เกสรเพศผู้ ๖ เกสร เรียงเป็น ๒ ชั้น ก้านชูอับเรณูยาว มักเชื่อมติดกับหลอดกลีบดอกเกือบตลอดความยาว อับเรณูรูปเกือบกลม ดอกเพศเมียคล้ายดอกเพศผู้ แต่สั้นกว่าดอกเพศผู้ และมีก้านดอกสั้น รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียเล็ก รูปคล้ายโล่ขอบพับจีบ
ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง รูปทรงกลมหรือทรงรี กว้าง ๓-๘ มม. ยาวได้ถึง ๑ ซม. ผิวเรียบ ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง เมล็ดรูปทรงกลมหรือทรงรูปไข่มี ๑-๓ เมล็ด
จั๋งชนิดนี้เป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดที่จีนตอนใต้ ไต้หวัน และเวียดนามตอนเหนือ นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยเป็นไม้ใบประดับ นิยมปลูกกันมากในประเทศญี่ปุ่นและประเทศเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อนทั่วโลก
ประโยชน์ ใบสดนิยมนำมาจัดแต่งซุ้มดอกไม้ลำต้นมีเนื้อไม้ที่เหนียวและแข็งแรง ใช้ทำตะเกียบและไม้เท้า.