ชมพู่น้ำดอกไม้เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง ๑๐ ม.กิ่งเรียว แบนหรือเป็นเหลี่ยม เปลือกเรียบ สีเทาอมขาวหรือสีน้ำตาล
ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง ๓-๔.๕ ซม. ยาว ๑๒-๑๗.๕ ซม. ปลายแหลมหรือเรียวแหลม โคนรูปลิ่ม ขอบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนา เกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน ด้านบนสีเขียวเข้มค่อนข้างเป็นมัน ด้านล่างสีจางกว่า เส้นกลางใบเป็นร่องตื้นทางด้านบน เส้นแขนงใบข้างละ ๑๑-๑๔ เส้น เส้นขอบในข้างละ ๒ เส้น ก้านใบยาว ๐.๗-๑.๔ ซม.
ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามปลายกิ่ง ยาวได้ถึง ๖ ซม. แต่ละช่อมีดอก ๓-๘ ดอก พบน้อยที่มี ๑ ดอก
ผลแบบผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด สุกสีเหลืองอ่อนหรือสีเขียวอ่อนอมเหลืองมีกลิ่นหอม รูปทรงกลมแป้นหรือค่อนข้างกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง ๓.๕-๕ ซม. ปลายผลมีกลีบเลี้ยงและก้านยอดเกสรเพศเมียติดทน เมล็ดรูปคล้ายผล มี ๑ เมล็ด พบน้อยที่มี ๓ เมล็ด
ชมพู่น้ำดอกไม้มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคมาเลเซีย ปลูกเป็นไม้ผลทั่วไปในเขตร้อน มีการปลูกตามบ้านหรือในสวนทั่วทุกภาคของประเทศไทย
ประโยชน์ ผลสุกรสหวาน มีกลิ่นหอม รับประทานได้.