ขาวด่างเป็นไม้ล้มลุกหลายปี สูง ๔๐-๙๐ ซม. ลำต้นเป็นเหลี่ยม ตั้งตรง แตกกิ่งมาก มีเส้นนูนจากโคนก้านใบลงมา
ใบเดี่ยว เรียงเวียน บางครั้งเกือบเรียงตรงข้ามรูปใบหอกหรือรูปใบหอกแกมรูปรี กว้าง ๑.๕-๔ ซม. ยาว ๖-๑๓ ซม. ปลายแหลมหรือเรียวแหลม โคนรูปลิ่มขอบเรียบ มีต่อมเป็นจุดสีดำ หรือเป็นทางสั้น ๆ กระจัดกระจายบนแผ่นใบทั้ง ๒ ด้าน โดยเฉพาะใกล้ขอบใบ ใบแห้งบางคล้ายเยื่อ ก้านใบยาว ๑-๔ ซม. มีปีกแคบ ๆ
ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกที่ปลายกิ่ง ยาว ๑๐-๒๕ ซม. ใบประดับรูปลิ่มแคบ ยาว ๒-๓ มม. ก้านดอกยาว ๒-๙ มม. เมื่อเป็นผลยาวได้ถึง ๑-๑.๘ ซม. ดอกสีขาวอมม่วง กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเล็กน้อยแล้วแยกเป็น ๕ แฉก รูปใบหอกแคบ ยาว ๓-๔ มม. มีขนครุยแบบขนต่อมและมีต่อมสีดำเป็นแนวกลางกลีบด้านนอกกลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ ๑.๕ มม.
ผลแบบผลแห้งแตก รูปค่อนข้างกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง ๓-๔ มม. ปลายผลมีก้านยอดเกสรเพศเมียติดทน เมล็ดเล็ก มีจำนวนมาก
ขาวด่างมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบตามที่รกร้างข้างทาง ริมแม่น้ำ ที่สูงจากระดับทะเล ๒๐๐-๔๐๐ ม. ออกดอกและเป็นผลเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ในต่างประเทศพบที่อินเดีย จีน ญี่ปุ่น ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และนิวเฮบริดีส.