กูดลอง

Gymnogrammitis dareiformis (Hook.) Ching ex Tardieu & C.Chr.

เฟิร์นอิงอาศัย เหง้าทอดยาว ใบประกอบแบบขนนกสามถึงสี่ชั้น กลุ่มใบย่อยมีประมาณ ๑๐ คู่ เรียงสลับ รูปขอบขนานกลุ่มใบย่อยชั้นที่ ๒ รูปกึ่งสามเหลี่ยม กลุ่มใบย่อยชั้นที่ ๓ ขอบเรียบหรือหยักปลายแหลม แผ่นใบบาง กลุ่มอับสปอร์กลมอยู่บนเส้นใบของใบย่อยชั้นที่ ๓ ใบละ ๑ กลุ่ม ไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์

กูดลองเป็นเฟิร์นอิงอาศัย เหง้าทอดยาว แตกแขนง เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๕ มม. มีเกล็ดเป็นแผ่นบางหุ้ม

 สีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาล ตอนกลางสีน้ำตาลเข้ม กว้างประมาณ ๑ มม. ยาว ๔-๕ มม. โคนแคบ ปลายเรียวเป็นเส้น

 ใบประกอบแบบขนนกสามถึงสี่ชั้น รูปขอบขนาน กว้างประมาณ ๑๕ ซม. ยาวประมาณ ๒๕ ซม. ปลายแหลมถึงเรียวแหลม ก้านใบสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาล อยู่บนเหง้าที่ตั้งขึ้นมีเกล็ดที่โคน

 กลุ่มใบย่อยมีประมาณ ๑๐ คู่ เรียงสลับ รูปขอบขนานเรียวแหลมไปหาปลายใบ กว้างประมาณ ๕ ซม. ยาวประมาณ ๑๐ ซม. มีก้านเป็นครีบ กลุ่มใบย่อยชั้นที่ ๒ รูปกึ่งสามเหลี่ยม กว้างประมาณ ๒ ซม. ยาวประมาณ ๓ ซม. ปลายแหลมโคนสอบ มีก้านสั้น เส้นใบแยกเป็นคู่ กลุ่มใบย่อยชั้นที่ ๓ ขอบเรียบหรือหยัก ปลายแหลม แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ผิวเรียบกลุ่มอับสปอร์กลม อยู่บนเส้นใบของใบย่อยชั้นที่ ๓ ใบละ ๑ กลุ่ม ไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์

 กูดลองมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ เกาะต้นไม้ใหญ่ปุ่นกับมอสส์ หรือขึ้นบนหินในป่าดิบเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๒๐๐-๒,๐๐๐ ม. ในต่างประเทศพบทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและอินเดียตอนเหนือ.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
กูดลอง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Gymnogrammitis dareiformis (Hook.) Ching ex Tardieu & C.Chr.
ชื่อสกุล
Gymnogrammitis
คำระบุชนิด
dareiformis
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Hooker, William Jackson
- Ching, Ren Chang
- Tardieu, Marie Laure
- Christensen, Carl Frederik Albert
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- Hooker, William Jackson (1785-1865)
- Ching, Ren Chang (1898-1986)
- Tardieu, Marie Laure (1902- )
- Christensen, Carl Frederik Albert (1872-1942)
ผู้เขียนคำอธิบาย
รศ. ดร.ทวีศักดิ์ บุญเกิด