ชมพู่นกปักษ์ใต้เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง ๑๕ ม. กิ่งรูปทรงกระบอก เปลือกสีเทาอมขาว
ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปใบหอก กว้าง ๓.๕-๑๒.๕ ซม. ยาว ๑๕.๕-๓๒ ซม. ปลายแหลม โคนเว้ารูปหัวใจ ขอบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนังเกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน เส้นกลางใบเป็นร่องตื้นทางด้านบนเส้นแขนงใบข้างละ ๑๐-๑๒ เส้น ไม่มีเส้นขอบในก้านใบบวม ยาว ๑-๓ มม.
ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามปลายกิ่ง ยาวประมาณ ๓ ซม. แต่ละช่อมีดอก ๔-๗ ดอก ก้านช่อยาว ๓-๔ มม. แกนช่อรูปทรงกระบอก ไม่มีก้านดอก ดอกสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ฐานดอกรูปถ้วย ปลายผายคล้ายปากแตร ยาวประมาณ ๑.๕ ซม. กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกับฐานดอก ปลายแยกเป็น ๔ แฉก แต่ละแฉกรูปครึ่งวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง ๐.๕-๑ ซม. กลีบดอก ๔ กลีบ แยกกันเป็นอิสระ รูปกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง ๒-๒.๓ ซม. โคนหนา แผ่นกลีบมีต่อมจำนวนมาก เกสรเพศผู้จำนวนมาก แยกกันเป็นอิสระ เกสรรอบนอกยาวกว่ารอบใน อับเรณูรูปรีแกมรูปขอบขนาน ยาวประมาณ ๒ มม. ก้านชูอับเรณูเรียวสีขาวหรือสีชมพูอ่อน รอบนอกยาว ๓.๕-๔ ซม. รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มี ๒ ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก ก้านยอดเกสรเพศเมียเรียว ยาวประมาณ ๓.๕ ซม. ยื่นเหนือกลุ่มเกสรเพศผู้ ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม
ผลแบบผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด
ชมพู่นกปักษ์ใต้มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคใต้ พบตามป่าดิบ ที่สูงจากระดับทะเล ๕๐-๕๐๐ ม. ในต่างประเทศพบที่มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาะสุมาตรา และฟิลิปปินส์.