กุนนกเป็นไม้ต้น สูง (๓)-๖-๑๕-(๒๗) ม. ต้นอ่อนและกิ่งอ่อนมีหนามแบบแตกแขนง ต้นแก่ไม่มีหนาม เปลือกเรียบสีเทาหรือสีน้ำตาล
ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปไข่ถึงรูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง ๓-๘ ซม. ยาว ๗-๑๘ ซม. ปลายเรียวแหลมหรือมน โคนเบี้ยว รูปลิ่มถึงกลม มีต่อมที่โคน ๑ คู่ ขอบค่อนข้างเรียบหรือหยักมน แผ่นใบค่อนข้างหนา เส้นแขนงใบข้างละ ๔-๖ เส้น เส้นใบคู่ล่างยาวเรียวโค้งขึ้นด้านบน ก้านใบยาว ๐.๖-๑.๒ ซม. ใบอ่อนสีชมพู
ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามง่ามใบ ยาว ๒-๔.๕-(๘) ซม. มีขนแน่น ก้านดอกยาว ๐.๖-๑.๑ ซม. ดอกสีขาวอมเทาถึงสีเหลือง กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีอย่างละ ๕-๖-(๗) กลีบ กลีบเลี้ยงรูปไข่ กว้าง ๒-๔ มม. กลีบดอกรูปใบหอกแกมรูปไข่ กว้าง ๓-๕ มม. เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก ก้านชูอับเรณูยาว ๓-๕ มม. ฐานดอกมีขน มีจานฐานดอก ไม่มีต่อมที่จานฐานดอก รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปไข่ มี ๑ ช่อง มีออวุล ๖-๒๐ เม็ด ติดตามแนวตะเข็บ ก้านยอดเกสรเพศเมียยาว ๔-๖ มม. ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่มเล็ก ๆ
ผลแบบผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด สีเขียวถึงสีม่วงรูปรีถึงรูปรีแกมรูปไข่ เส้นผ่านศูนย์กลาง ๑.๕-๒.๕ ซม. มักมีติ่งแหลมอ่อนหรือเป็นจุกเล็ก ๆ ผนังผลหนา ๑-๒ มม. ผลแห้งสีดำ มี ๖-(๒๐) เมล็ด สีแดง รสขม
กุนนกมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขึ้นในป่าดิบ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง บริเวณดินที่มีหินปูน ที่สูงระดับน้ำทะเลจนถึงประมาณ ๑,๒๐๐ เมตร ในต่างประเทศพบที่พม่า หมู่เกาะนิโคบาร์ภูมิภาคอินโดจีน และภูมิภาคมาเลเซีย นิยมปลูกทั่วไป.