กระเจียว

Curcuma sessilis Gage

ชื่ออื่น ๆ
กาเตียว (ตะวันออกเฉียงเหนือ), จวด (ใต้), อาวแดง (เหนือ)
ไม้ล้มลุก มีเหง้าใหญ่ ใบเรียงสลับ รูปใบหอกแคบ กาบใบหุ้มซ้อนกันเป็นต้นเทียม ใบมีขนทั้ง ๒ ด้าน ช่อดอกแบบช่อเชิงลด มีใบประดับสีเขียวอ่อนเรียงซ้อนกัน ดอกสีขาว

กระเจียวเป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๖๐ ซม. มีเหง้าใหญ่ รูปรี อยู่ในแนวดิ่ง ผิวสีน้ำตาล ภายในสีขาว

 ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอกแคบ กว้าง ๓-๔ ซม. ยาว ๑๗.๕-๒๐ ซม. แผ่นใบมีขนทั้ง ๒ ด้าน ก้านใบรวมกาบใบ ยาว ๑๕-๑๗.๕ ซม. โคนกาบใบสีม่วง

 ช่อดอกแบบช่อเชิงลด รูปทรงกระบอก โผล่พ้นดินก่อนใบ ยาวประมาณ ๑๒ ซม. ก้านช่อดอกสั้นมาก มีใบประดับจำนวนมาก โคนใบประดับรวบติดกันเป็นกรวย และติดกับแกนช่อดอก ใบประดับตอนล่างสีเขียว มีดอกอยู่ในซอกระหว่างใบประดับและแกนดอก ใบประดับตอนบนสีม่วง ไม่มีดอก ดอกเล็ก กลีบเลี้ยงสั้นมาก โคนติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นซี่เล็ก ๆ กลีบดอกสีขาว รูปไข่ปลายแหลม ขนาดไม่เท่ากัน โคนติดกันเป็นหลอดยาวประมาณ ๒.๕ ซม. ขอบกลีบม้วนไปจนถึงตอนปลาย กลีบปากสีเหลือง รูปรี กว้างประมาณ ๑.๒ ซม. เกสรเพศผู้ ๑ อัน


เกสรเพศเมียอยู่ระหว่างลอนอับเรณู รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก

 กระเจียวมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทั่วทุกภาคพบตามป่าเบญจพรรณและที่โล่งทั่วไป ออกดอกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงกรกฎาคมในต่างประเทศพบที่พม่าตอนเหนือ

 ใช้ช่อดอกอ่อนขณะที่ใบประดับยังไม่คลี่ประกอบอาหารเป็นผักสุก

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
กระเจียว
ชื่อวิทยาศาสตร์
Curcuma sessilis Gage
ชื่อสกุล
Curcuma
คำระบุชนิด
sessilis
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Gage, Andrew Thomas
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- Gage, Andrew Thomas (1871-1945)
ชื่ออื่น ๆ
กาเตียว (ตะวันออกเฉียงเหนือ), จวด (ใต้), อาวแดง (เหนือ)
ผู้เขียนคำอธิบาย
ผศ.จิรายุพิน จันทรประสงค์