กอกเล็กเป็นไม้ต้น สูงได้ถึง ๔๕ ม. โคนต้นเป็นพอน
ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงเวียน ก้านใบยาว ๔-๑๒ ซม. มีขน ใบย่อย ๓-๖ คู่ รูปรี รูปไข่ ถึงรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง ๒.๕-๕ ซม. ยาว ๕-๑๒ ซม. ปลายเรียวแหลมหรือเป็นติ่งแหลมสั้น โคนมน เบี้ยวเล็กน้อยแผ่นใบเกลี้ยงหรือมีขนตามเส้นกลางใบด้านล่าง เส้นกลางใบนูนเด่นชัดทั้ง ๒ ด้าน เส้นแขนงใบข้างละ ๙-๑๕ เส้น ปลายโค้งแล้วแตกแขนงออกใกล้ขอบใบ หรือจรดกันใกล้ขอบใบ เส้นใบย่อยแบบร่างแหกึ่งขั้นบันได ด้านล่างของใบแห้งสีน้ำตาลแดง ก้านใบย่อยยาว ๐.๕-๑ ซม. ยกเว้นของใบปลาย สุดยาวถึง ๒ ซม.
ดอกแยกเพศต่างต้น ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตาม ง่ามใบ ยาว ๒-๑๕ ซม. ช่อย่อยยาวได้ถึง ๔ ซม. ช่อดอกเพศเมียสั้นกว่าช่อดอกเพศผู้มาก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียคล้ายกัน สีเขียวอ่อนเกือบขาว ยาวประมาณ ๓ มม. มีขนสั้นหนานุ่มสีน้ำตาลแดง กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเล็กน้อยปลายแยกเป็นแฉกรูปสามเหลี่ยม ๓ แฉก ยาว ๑-๓ มม. กลีบดอก ๓ กลีบ เกสรเพศผู้ ๓ อัน ติดที่จานฐานดอกรูปถ้วยขอบตัด เกสรเพศเมียลดรูป รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีออวุล ๒ เม็ด ยอดเกสรเพศเมียกลม
ผลแบบผลเมล็ดเดียวแข็ง สีน้ำเงินเข้ม รูปกลมเบี้ยวเล็กน้อย กว้าง ๗-๘ มม. ยาว ๐.๘-๑ ซม. เนื้อหนา เมล็ดรูปกลมรี เปราะบาง
กอกเล็กมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคใต้ที่ จ. กระบี่ พบตามป่าดิบชื้นที่สูงจากระดับทะเลไม่เกิน ๑๐๐ ม. ออกดอกประมาณเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ติดผลเดือนเมษายน ในต่างประเทศพบที่คาบสมุทรมาเลเซีย เกาะบอร์เนียว สุมาตรา และนิวกินี ตามป่าดิบชื้นและป่าพรุ.