ไม้ต้น เปลือกสีดำ ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปขอบขนานถึงรูปใบหอก ดอกแยกเพศต่างต้น ช่อดอกแบบ ช่อกระจุกหรือช่อกระจุกเชิงประกอบ ออกตามซอกใบหรือเหนือรอยแผลใบ มีขนสีดำปนสีน้ำตาลประปราย ดอกสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ผลแบบผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด รูปทรงกลมแกมรูปไข่ เมื่ออ่อนมีขนสีน้ำตาล แกมสีดำ มีกลีบเลี้ยงติดทนขยายใหญ่ขึ้น ขอบกลีบพับจีบและเป็นคลื่น ปลายกลีบชี้ขึ้น เมล็ดรูปทรงรี โค้ง สี น้ำตาลเข้ม มีเยื่อบางหุ้ม
ดงน้ำเป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงได้ ถึง ๒๕ ม. เปลือกสีดำ ค่อนข้างเรียบ กระพี้สีขาว แก่นสี น้ำตาลแดง
ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปขอบขนาน ถึงรูปใบหอก กว้าง ๖-๑๐ ซม. ยาว ๑๖-๒๒ ซม. ปลาย แหลม โคนมน ขอบเรียบหรือเป็นคลื่น แผ่นใบบาง ใบ อ่อนมีขนประปราย เส้นแขนงใบข้างละ ๖-๑๐ เส้น เป็น ร่องทางด้านบนและเป็นสันนูนทางด้านล่าง มีเส้นแขนง ใบสั้น ๆ แทรก พอเห็นได้ทางด้านบน ปลายเส้นแขนง ใบมักเชื่อมต่อกับเส้นถัดขึ้นไปใกล้ขอบใบ ก้านใบยาว ๑-๑.๕ ซม. เมื่ออ่อนมีขนนุ่ม
ดอกแยกเพศต่างต้น ช่อดอกแบบช่อกระจุก หรือช่อกระจุกเชิงประกอบ ออกตามซอกใบหรือเหนือ รอยแผลใบ ดอกเพศผู้มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ ๔-๕ กลีบ ก้านดอกยาว ๓-๕ มม. มีขนสีดำปนสีน้ำตาล ประปราย กลีบเลี้ยงรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก กว้าง ประมาณ ๒ มม. ยาว ๕-๗ มม. ขอบกลีบจีบพับออกและ เป็นคลื่นเล็กน้อย ด้านนอกมีขนนุ่มสีน้ำตาลแกมสีดำ ด้าน ในเกลี้ยง กลีบดอกสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ยาว ๑.๕-๒ ซม. โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นแฉก ๔-๕ แฉก รูปขอบขนาน แฉกกลีบดอกและหลอดกลีบดอก ยาวใกล้เคียงกัน ด้านนอกมีขน ด้านในเกลี้ยง เกสรเพศผู้ ๑๖-๒๖ เกสร ก้านชูอับเรณูโคนชิดกันเป็นคู่ เกลี้ยง กลาง อับเรณูมีขนตามแนวยาว รังไข่เป็นหมัน มีขนหยาบแข็ง ช่อดอกและดอกเพศเมียคล้ายช่อดอกและดอกเพศผู้แต่ มีขนาดใหญ่กว่า เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน ๘ เกสร เกลี้ยง รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ทรงรูปไข่ มีขนสั้นหนาแน่น มี ๘ ช่อง แต่ละช่องมีออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียเรียว มีขนสั้นหนาแน่น ยอดเกสรเพศเมียแหลม
ผลแบบผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด รูปทรงกลม แกมรูปไข่ กว้าง ๒-๓ ซม. ยาว ๒-๓.๕ ซม. ปลายผลมน กลมและมักมีติ่ง ยอดเกสรเพศเมียติดทน เปลือกผลแข็ง แต่เปราะ เมื่ออ่อนมีขนสั้นสีน้ำตาลแกมสีดำและจะหลุด ร่วงไปเมื่อผลเจริญขึ้น มีกลีบเลี้ยงติดทนขยายใหญ่ขึ้น มีขนสีน้ำตาลดำค่อนข้างหนาแน่นทั้ง ๒ ด้าน กลีบพับจีบ และเป็นคลื่น ปลายกลีบชี้ขึ้น เมล็ดรูปทรงรี โค้ง สีน้ำตาล เข้ม มีเยื่อบางหุ้ม ก้านผลยาว ๑-๑.๕ ซม.
ดงน้ำมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทาง ภาคเหนือและภาคใต้ พบตามป่าไม้พุ่มเตี้ยและป่าดิบชื้น ที่สูงจากระดับทะเล ๕๐-๘๐๐ ม. ส่วนมากออกดอกเดือน
มกราคมถึงพฤษภาคม เป็นผลเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ในต่างประเทศพบที่เมียนมา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ประโยชน์ ผลดิบใช้ย้อมผ้า แห อวน และตาข่าย เนื้อไม้ใช้ทำสิ่งปลูกสร้างทั่วไป.