ตีนฮุ้งดอยเป็นไม้ล้มลุกหลายปี สูง ๐.๕-๑ ม. เหง้ารูปทรงกระบอก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒ ซม.
ใบเดี่ยว เรียงเป็นวงรอบที่ปลายลำต้น มี ๕-๑๑ ใบ ส่วนใหญ่รูปไข่กลับ บางครั้งรูปขอบขนานแกมรูปใบหอกกลับถึงรูปรี กว้าง ๔.๕-๑๑ ซม. ยาว ๑๓-๒๔ ซม. ปลายเรียวแหลมถึงแหลมแข็ง โคนรูปลิ่มถึงค่อนข้างมนกลม มักเบี้ยว แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ ด้านบนสีเขียวเข้ม ด้านล่างสีเขียวอ่อน เส้นแขนงใบออกใกล้โคนใบไปสู่ปลายใบข้างละ ๑-๒ เส้น และมีเส้นแขนงใบตามเส้นกลางใบข้างละ ๓-๘ เส้น เส้นแขนงใบด้านนอกสุดมีเส้นแขนงใบย่อยไปเชื่อมติดกันคล้ายเส้นขอบใน ก้านใบยาว ๑-๖ ซม.
ดอกเดี่ยว ออกที่ยอด ก้านดอกยาว ๕-๔๐ ซม. กลีบรวม ๔-๑๐ กลีบ พบบ้างที่มีถึง ๑๒ กลีบ เรียงเป็นวง ๒ วง กลีบวงนอก ๓-๘ กลีบ สีเขียวหรือสีเขียวอมเหลือง ลักษณะคล้ายใบ รูปใบหอกถึงรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก กว้าง ๑-๓.๕ ซม. ยาว ๖-๑๒.๕ ซม. มักมีก้านกลีบ กลีบวงในสีเขียวอมเหลือง รูปเส้นด้ายถึงรูปแถบแคบ กว้าง ๐.๓-๒ มม. ยาว ๓-๖.๕ ซม. เกสรเพศผู้ ๖-๑๒ เกสร พบบ้างที่มีได้ถึง ๒๑เกสร ก้านชูอับเรณูยาว ๓-๖ มม. อับเรณูค่อนข้างแบน รูปขอบขนาน ยาว ๐.๖-๑.๒ ซม. รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปทรงค่อนข้างกลม มีสันตามยาว ปลายตัด มี ๑ ช่อง มีออวุลจำนวนมาก ก้านยอดเกสรเพศเมียสั้น สีเขียวหรือสีม่วง ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น ๔-๖ แฉก
ผลแบบผลแห้งแตก รูปทรงกลม ยาว ๒-๔ มม. เมล็ดรูปทรงค่อนข้างกลม มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงอวบน้ำ
ตีนฮุ้งดอยมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ พบตามป่าก่อผสมสนเขา ป่าดิบเขาต่ำ และป่าไผ่ ที่สูงจากระดับทะเลปานกลาง ๖๕๐-๒,๐๐๐ ม. ออกดอกเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม เป็นผลเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ในต่างประเทศพบที่เมียนมา ภาคใต้ของจีน ภาคเหนือของเวียดนาม และภาคเหนือของลาว.