ชงโคชนิดนี่เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง ๑๐ ม. ไม่ผลัดใบ แตกกิ่งต่ำ เปลือกเรียบ สีเทาอ่อน
ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปค่อนข้างกลม กว้างและยาว ๖-๑๓ ซม. ปลายแยกเป็น ๒ แฉก เว้าลึกหนึ่งในห้าถึงหนึ่งในสามของความยาวแผ่นใบ ตรงกลางของส่วนเว้ามีติ่งหนามขนาดเล็ก ปลายแฉกมนกลม โคนเว้ารูปหัวใจ ตื้นและกว้าง ขอบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนา ด้านบนสีเขียว เกลี้ยง ด้านล่างสีอ่อนกว่าเล็กน้อย มีขนสั้น ๆ ตามเส้นใบ เส้นโคนใบ ๑๑-๑๓ เส้น ก้านใบเรียว ยาว ๓-๕ ซม. มีขนสั้น หูใบขนาดเล็ก ยาว ๑-๒ มม. ร่วงง่าย
ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง มี ๖-๑๐ ดอก ใบประดับรูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่ ปลายเรียวแหลม กว้าง ๒-๓ มม. ยาว ๒.๕-๔ มม. ใบประดับย่อยรูปสามเหลี่ยมแกมรูปใบหอก ปลายเรียวแหลม กว้าง ๑.๕-๒ มม. ยาว ๓-๔ มม. ติดอยู่ใกล้โคนก้านดอก ทั้งใบประดับและใบประดับย่อยมีขนละเอียดค่อนข้างหนาแน่น ก้าน
ชงโคชนิดนี่เป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดที่เกาะฮ่องกง เป็นลูกผสมระหว่างชงโค (Bauhinia purpurea L.) และเสี้ยวดอกขาว (Bauhinia variegata L.) นำเข้าจากสิงคโปร์มาปลูกเป็นไม้ประดับในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๐๕ ออกดอกเป็นช่วง ๆ เกือบตลอดปี ไม่ติดผลเนื่องจากเป็นลูกผสมที่เป็นหมัน
ชื่อพรรณไม้ชนิดนี่ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ Sir Henry Arthur Blake (พ.ศ. ๒๓๘๓-๒๔๖๑) อดีตข้าหลวงใหญ่ของเกาะฮ่องกง และ Lady Blake.