ขี้กาขาวเป็นไม้เถาล้มลุก ลำต้นมีขนสาก มือพันมี ๑-๒ แฉก
ใบเดี่ยว เรียงเวียนห่าง ๆ รูปไข่ป้อมหรือค่อนข้างกลม มีห้าเหลี่ยมหรือห้าแฉก กว้าง ๔-๙ ซม. ยาว ๕-๘ ซม. ปลายแหลม โคนเว้ารูปหัวใจ ขอบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบด้านบนหยาบและมีขนสาก ด้านล่างมีขนหนาแน่น ก้านใบยาว ๓-๖ ซม.
ดอกแยกเพศร่วมต้น ออกเป็นดอกเดี่ยวตามง่ามใบ ดอกเพศผู้อาจมีได้ถึง ๓ ดอก สีขาวมีลายตามยาวสีเหลือง ก้านดอกยาว ๓-๑๒ ซม. มีขน ใบประดับรูปไข่กลับ ยาวประมาณ ๕ มม. มีขน ฐานดอกรูปกรวย กว้าง ๕-๘ มม. ยาว ๒.๕-๓ ซม. มีขน กลีบเลี้ยง ๕ กลีบ รูปแถบแกมรูปใบหอก ยาว ๕-๘ มม. มีขนสีน้ำตาลหนาแน่น กลีบดอก ๕ กลีบ รูปไข่กลับ กว้าง ๑.๕-๒ ซม. ยาว ๒-๓ ซม. มีขน ขอบเรียบ โคนกลีบติดกันเล็กน้อย เกสรเพศผู้มี ๓ อัน อับเรณูขดไปมาคล้ายตัวหนอน ดอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยว ก้านดอกยาว ๔-๕ มม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกคล้ายดอกเพศผู้แต่สั้นกว่าเล็กน้อย รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ รูปขอบขนานแกมรูปกระสวย มีขน มี ๑ ช่อง ออวุลจำนวนมาก ก้านยอดเกสรเพศเมียยาว ปลายแยกเป็น ๓ แฉก
ผลแบบผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด รูปกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒ ซม. สุกสีแดงอมส้ม ผิวเรียบ เมล็ดจำนวนมาก รูปรี แบน กว้างประมาณ ๓ มม. ยาว ๗-๘ มม. หนาประมาณ ๑.๕ มม. ขอบเรียบ
ขี้กาขาวมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทั่วทุกภาค พบตามป่าละเมาะ และที่รกร้างทั่วไป ในต่างประเทศพบที่พม่า ภูมิภาคอินโดจีน และมาเลเซีย