ไม้ต้น เปลือกสีเทา แตกเป็นเกล็ด กิ่งมีขนสั้น ๆ เห็นชัด หรือเกือบเกลี้ยง ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปรี ช่อดอกแบบ ช่อแยกแขนง แต่มักลดรูปคล้ายช่อกระจุกแยกแขนงหรือช่อกระจะ ออกตามซอกใบ ดอกสีขาวอมเขียว มีกลิ่น เหม็น โคนก้านดอกใกล้รอยต่อไม่มีใบประดับย่อย ผลแบบผลแห้งแตก รูปกรวยกลับ มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก ติดทนหุ้มมิด เมล็ดขนาดเล็ก มีหนึ่งถึงหลายเมล็ด
แดงเขาชนิดนี้เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง ๓๐ ม. เปลือก สีเทา แตกเป็นเกล็ด กิ่งมีขนสั้น ๆ เห็นชัด หรือเกือบเกลี้ยง
ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปรี กว้างประมาณ ๖ ซม. ยาวได้ถึง ๑๑ ซม. ปลายแหลมถึงเรียวแหลม โคนรูปลิ่ม ขอบเรียบ เกลี้ยง เส้นแขนงใบข้างละ ๘-๑๐ เส้น ก้านใบ ยาวได้ถึง ๗ มม. หูใบรูปสามเหลี่ยมกว้าง ยาวน้อยกว่า ๑ มม. ร่วงง่าย
ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง แต่มักลดรูปคล้าย ช่อกระจุกแยกแขนงหรือช่อกระจะ ออกตามซอกใบ แกน กลางช่อยาวได้ถึง ๑๕ ซม. มีขนสั้น ๆ เห็นชัด แขนงช่อ ดอกยาวได้ถึง ๑ ซม. ที่โคนมีใบประดับ ๑ ใบ ยาวได้ถึง ๑ มม. ร่วงง่าย ปลายแขนงช่อมีดอก ๑ ดอก ก้านดอก สั้นมาก ใกล้โคนก้านมีรอยต่อ ไม่มีใบประดับย่อยที่รอย ต่อของก้านดอก ดอกสีขาวอมเขียว มีกลิ่นเหม็น ทั้งกลีบ เลี้ยงและกลีบดอกติดทน กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็น หลอด ยาวได้ถึง ๓ มม. ปลายแยก ๕-๘ แฉก รูปรี ยาวได้ ถึง ๓ มม. มีขนสั้น ๆ หนาแน่นที่หลอดกลีบเลี้ยงและผิว แฉกกลีบเลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันที่ขอบ หลอดกลีบเลี้ยง ปลายแยกเป็น ๕-๘ แฉก รูปรีถึงรูปช้อน ยาวได้ถึง ๕ มม. บนผิวกลีบดอกทั้ง ๒ ด้านมีขนสั้นหนา แน่น จานฐานดอกมีต่อมยาวขนานไปตามแนวแกน มีขน สั้นหนาแน่น เกสรเพศผู้เรียงเป็นกระจุก ๕-๘ กระจุก ติด อยู่ระหว่างต่อมจานฐานดอกและอยู่ตรงข้ามกับแฉกกลีบ ดอก แต่ละกระจุกมี ๔-๖ เกสร ก้านชูอับเรณูรูปเส้นด้าย ส่วนโคนมีขน อับเรณูขนาดเล็ก รูปเกือบกลม รังไข่อยู่กึ่ง ใต้วงกลีบ ส่วนบนรูปกรวย แยกอิสระจากหลอดกลีบเลี้ยง ผิวด้านนอกมีขนสั้นปนยาวหนาแน่น ด้านในมีขนแบบ เดียวกันแต่สั้นกว่า มี ๑ ช่อง มีออวุลจำนวนมาก ก้านยอด เกสรเพศเมีย ๓ ก้าน ยอดเกสรเพศเมียขนาดเล็ก
ผลแบบผลแห้งแตก รูปกรวยกลับ มีกลีบเลี้ยง และกลีบดอกติดทนหุ้มมิด เมล็ดขนาดเล็ก มีหนึ่งถึง หลายเมล็ด
แดงเขาชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศ ไทยทางภาคใต้ พบตามพื้นที่หินปูนใกล้ระดับทะเลถึง ๔๐๐ ม. ในต่างประเทศพบที่คาบสมุทรมาเลเซีย.