ชายผ้าสีดาชนิดนี่เป็นเฟิร์นอิงอาศัยอายุหลายปีขนาดเล็กกว่าชนิด Platycerium holttumii de Jonch. et Hennipman ลำต้นสั้น เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นประมาณ ๑ ซม. มีเกล็ดหนาแน่น รูปแถบ กว้างประมาณ ๐.๕ มม. ยาว ๐.๕-๑.๒ ซม. ขอบเกล็ดสีน้ำตาลอ่อน บริเวณกลางเกล็ดสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ
ใบทวิสัณฐาน ประกอบด้วยใบประกบต้นที่ไม่สร้างกลุ่มอับสปอร์ เจริญตั้งขึ้น รูปค่อนข้างกลมกว้างและยาว ๔๐-๕๐ ซม. สีเขียว แผ่นใบอวบน้ำหรือเหนียวและหนาคล้ายแผ่นหนัง มีขนรูปดาวสีเทาหนาแน่นโดยเฉพาะใบอ่อน ใบประกบต้นอยู่ในแนวตั้ง ทำให้สามารถรองรับน้ำฝนและใบไม้แห้งที่ตกลงมาซึ่งจะกลายเป็นปุ๋ย ไม่มีก้านใบ ครึ่งล่างของใบชนิดนี่หนา ๑-๑.๕ ซม. โคนเบี้ยวและหยักเว้าคล้ายรูปหัวใจ มีสีเขียวอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและแห้ง เรียงซ้อนกันและโอบติดอยู่กับต้นไม้ที่เกาะอยู่ แผ่นใบหยักเว้าลึกเกือบถึงกลางใบเกิดเป็นแฉกใบแคบ ๆ หลายคู่ รอยเว้าที่ลึกที่สุดอาจวัดได้ ๒๐-๒๕ ซม. แฉกใบแตกสาขาเป็นคู่มากกว่า ๑ ครั้ง ปลายแฉกมนกลมถึงแหลม ยาวมากกว่ากว้าง แผ่นใบส่วนล่างแผ่ออก ขอบใบเรียบถึงหยักเป็นคลื่น เส้นใบหลักเห็นชัด นูนทั้ง ๒ ด้าน แยกสาขาเป็นคู่ เส้นแขนงใบชั้นที่ ๑ และชั้นที่ ๒ สานกันเป็นร่างแห เห็นไม่ชัด แผ่นใบส่วนบนเนื้อใบบางใบที่สร้างกลุ่มอับสปอร์มีขนาดใหญ่ ไม่มีก้านใบเจริญออกมาครั้งละ ๑ คู่ คล้ายปีกผีเสื้อ ห้อยลงแต่ละข้างรูปสามเหลี่ยมหรือรูปพัด ยาว ๔๐-๘๐ ซม. โคนรูปลิ่ม ปลายใบแผ่กว้าง ขอบหยักเว้าลึกเป็นแฉกริ้ว แยกสาขาเป็นแฉกใหญ่ ๓ ครั้ง แฉกใหญ่แยกสาขาเป็นคู่ ๆ อีกหลายครั้ง แต่ละแฉกรูปแถบ กว้าง ๓-๔ ซม. ยาว ๑๒-๑๘ ซม. ปลายมน ขอบเรียบ แผ่นใบหนากึ่งอวบน้ำ สีเขียว มีขนสั้นสีขาวรูปดาวหนาแน่น นุ่มคล้ายกำมะหยี่ เส้นใบมีลักษณะคล้าย
กลุ่มอับสปอร์เกิดต่อเนื่องติดกันเป็นพืดบนผิวใบด้านล่าง ระหว่างแฉกใบคู่แรกๆ อาจแผ่ออกเป็นรูปครึ่งวงกลม มีขนรูปดาวและมีอับสปอร์ที่เป็นหมันเกิดปะปนหนาแน่น ไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์อับสปอร์สร้างสปอร์แบบเดียว
ชายผ้าสีดาชนิดนี่มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตกเฉียงใต้ พบเกาะตามต้นไม้หรือหินปูนที่ชื้นในป่าดิบแล้งหรือป่าผลัดใบ ที่สูงตั้งแต่ใกล้ระดับทะเลถึงประมาณ ๙๐๐ ม. ในต่างประเทศพบที่อินเดีย เมียนมา ตอนใต้ของจีนแถบมณฑลยูนนาน
ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับเช่นเดียวกับชนิดอื่น ๆ ในสกุลเดียวกัน แต่เป็นที่นิยมน้อยกว่าเพราะปลูกเลี้ยงได้ยาก เนื่องจากเป็นชนิดที่มีการพักตัวในช่วงฤดูแล้ง.