กล้วยหกแตกหน่อห่าง ๆ ไม่ชิดกันเป็นกอเหมือนกล้วย ชนิดอื่น ๆ ลำต้นเทียมสูงประมาณ ๒.๕ ม. เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑๕ ซม. กาบลำต้นด้านนอกสีเขียวอม เหลือง มีปื้นดำเล็กน้อย ด้านในสีเหลืองอ่อน ก้านใบสีเขียวอม เหลืองและมีจุดดำเล็กน้อย มีครีบ เส้นกลางใบสีเขียว ก้านช่อดอกมีขน ใบประดับรูปไข่ปลายมน ด้านบนสีเหลืองอมม่วงเข้ม
กล้วยหกมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ ขึ้นในป่าดิบตามหุบเขาและริมฝั่งลำน้ำ ในต่างประเทศพบที่อินเดียและพม่า หัวปลีกินได้ มีรสดีกว่ากล้วยป่าชนิดอื่น
กล้วยสกุล Musa ในหมู่ Musa (Eumusa) ที่นิยมกินโดยทั่วไปมีถิ่นกำเนิดแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการปลูกขยายพันธุ์ทั่วไปในปัจจุบันกล้วยที่กินได้นี้เกิดจากการกลายพันธุ์ผสมพันธุ์ภายในชนิดเดียวกัน หรือเกิดจากการผสมข้ามชนิดระหว่างกล้วยป่า (Musa acuminata Colla) กับกล้วยตานี (M. balbisiana Colla) ทำให้เกิดเป็นกล้วยพันธุ์ต่าง ๆ ขึ้นกว่า ๕๐ พันธุ์
การจำแนกพันธุ์กล้วยที่ปลูกเพื่อใช้กินผลในปัจจุบันอาศัยจีโนม (genome) เป็นหลัก คือ กล้วยป่า (M. acuminata Colla) มีจีโนม AA กล้วยตานี (M. balbisiana Colla) มีจีโนม BB จึงแบ่งกลุ่มได้ดังนี้
AA เป็นพันธุ์แท้ของกล้วยป่าหรือพันธุ์ที่ได้กลายพันธุ์ไปจากพันธุ์แท้ แต่ยังมีลักษณะพันธุ์แท้อยู่มาก
AAA เป็นพันธุ์ที่ได้กลายพันธุ์จากกล้วยป่ามาแล้ว
AB เป็นพันธุ์ผสมระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานี มีลักษณะก้ำกึ่งกัน
AAB เป็นพันธุ์ผสมที่มีลักษณะค่อนไปทางกล้วยป่า
ABB เป็นพันธุ์ผสมที่มีลักษณะค่อนไปทางกล้วยตานี
ABBB เป็นพันธุ์ผสมที่มีลักษณะค่อนไปทางกล้วยตานี ที่ได้กลายพันธุ์มาแล้ว
BB เป็นพันธุ์แท้ของกล้วยตานี หรือพันธุ์ที่ได้กลายพันธุ์ไปจากพันธุ์แท้ แต่ยังมีลักษณะพันธุ์แท้อยู่มาก
BBB เป็นพันธุ์ที่ได้กลายพันธุ์จากกล้วยตานีมาแล้ว
ในแต่ละกลุ่มยังจำแนกออกเป็นพันธุ์ย่อย เช่น กลุ่ม AAA มีพันธุ์ย่อย Cavendish, Dwarf cavendish, Gros Michel