เครือนางนวลเป็นไม้เถา ทุกส่วนมียางสีขาวมีขนทั่วไปตามกิ่งอ่อน ก้านใบ ผิวใบด้านล่าง ใบประดับและกลีบเลี้ยง เถาและกิ่งแก่เกลี้ยง
ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปขอบขนานกว้าง ๕-๗ ซม. ยาว ๑๐-๑๖ ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม โคนมน ขอบเรียบแผ่นใบหนาและเหนียวคล้ายแผ่นหนัง มีขนนุ่มหรือค่อนข้างเกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน เส้นแขนงใบข้างละ ๘-๑๒ เส้น ก้านใบยาว ๐.๗-๑.๕(-๒.๘) ซม.
ช่อดอกแบบช่อกระจุก ค่อนข้างแน่น ออกที่ปลายยอด ยาว ๒.๔-๗.๓ ซม. กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเล็กน้อยปลายแยกเป็น ๕ แฉก แต่ละแฉกรูปใบหอก กว้างประมาณ ๒ มม. ยาว ๐.๙-๑.๑ ซม. กลีบดอกสีขาวโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ ๗ มม. กลางหลอดป่อง ปลายหลอดแยกเป็น ๕ แฉก แต่ละแฉกรูปขอบขนาน กว้างประมาณ ๓ มม. ยาว ๖-๑๒.๖ มม. ปลายแหลม ด้านนอกมีขน ด้านในเกลี้ยง เกสรเพศผู้ ๕ เกสร ก้านชูอับเรณูสั้น ติดอยู่ภายในหลอดตรงบริเวณที่ป่อง อับเรณูรูปหัวลูกศร ยาว ๔-๕ มม. จานฐานดอก มี ๕ พู สูงประมาณ ๒ มม. ปลายมน รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มี ๑ คู่ แต่ละรังไข่มี ๑ ช่อง ออวุลจำนวนมากก้านยอดเกสรเพศเมียเชื่อมติดกัน ยาวประมาณ ๒ มม. ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม ปลายสอบและแยกเป็นแฉกตื้น ๕ แฉก
ผลแบบผลแห้งแตกแนวเดียว ออกเป็นคู่ รูปทรงกระบอก กว้างประมาณ ๑ ซม. ยาวประมาณ ๓๒-๓๗ ซม. มีขนสีเหลือง เมล็ดรูปขอบขนาน กว้างประมาณ ๖ มม. ยาว ๑-๒.๒ ซม. ปลายด้านหนึ่งมีขนเป็นพู่ ยาว ๒-๔.๕ ซม.
เครือนางนวลมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงใต้พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง ที่สูงจากระดับนํ้าทะเลไม่เกิน ๕๐๐ ม. ออกดอกเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม เป็นผลเดือนกันยายนถึงธันวาคม ในต่างประเทศพบที่พม่าและภูมิภาคอินโดจีน.