กล้วยเป็นไม้ล้มลุก ทุกส่วนมียาง มีเหง้า สกุล Musa เหง้ามีตาแตกหน่อได้ ส่วนสกุล Ensete ไม่แตกหน่อ ส่วนที่อยู่เหนือดินคล้ายลำต้นเป็นลำต้นเทียม (pseudostem) หรือเรียกว่า หยวก เกิดจากกาบใบที่ยาวเรียงซ้อนกันอยู่และอัดแน่น ความสูงของลำต้นเทียมตั้งแต่ ๐.๕-๔.๕ ม. เส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ ๑๕ ซม. กาบลำต้นเทียมด้านนอกอาจมีสีเขียวหรือมีปื้นดำ บางพันธุ์มีสีชมพูอมเขียว ส่วนกาบด้านในบางพันธุ์สีเขียว บางพันธุ์สีเหลืองอ่อน และบางพันธุ์สีชมพูอมแดง
ใบเดี่ยว รูปขอบขนานค่อนข้างยาว ยาวกว่าด้านกว้างเกิน ๒ เท่า กว้างประมาณ ๕๐ ซม. ยาวประมาณ ๑.๕ ม. ปลายและโคนมน ขอบเรียบ เส้นแขนงใบขนานกันตามขวาง เส้นกลางใบด้านบนเป็นร่องด้านล่างเป็นสัน ก้านใบยาวประมาณ ๕๐ ซม. ด้านบนเป็นร่อง แต่บางพันธุ์ร่องปิดสนิทเนื่องจากขอบร่องทั้ง ๒ ด้านโค้งเข้ามาจรดกัน บางพันธุ์ขอบร่องมีครีบบาง ๆ ก้านใบ ครีบ และเส้นกลางใบส่วนมากสีเขียว บางพันธุ์สีชมพูหรือชมพูอมแดง
ช่อดอกหรือที่เรียกว่า หัวปลี ออกที่ปลายลำต้นเทียมโดยแทงขึ้นมาจากลำต้นใต้ดินผ่านใจกลางลำต้นเทียมไปยังยอดช่อดอกตั้งตรงหรือโค้งลง ก้านช่อดอกมีขนาดใหญ่และยาวบางพันธุ์มีขน บางพันธุ์ไม่มีขน ช่อดอกประกอบด้วยช่อดอกย่อย ช่อดอกย่อยแต่ละช่อประกอบด้วยดอกเล็ก ๆ เรียงกันอย่างมีระเบียบช่อละ ๑ หรือ ๒ แถว ช่อดอกย่อยแต่ละช่อมีใบประดับสีแดงขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นกาบรูปคล้ายเรือ เรียงสลับซ้ายขวาหุ้มจนสุดปลายช่อ ใบประดับของกล้วยสกุล Musa จะตั้งขึ้นและร่วงไปเมื่อดอกเจริญเป็นผล คงเหลือแต่ส่วนปลายช่อ แต่สกุล Ensete ใบประดับไม่ร่วง
กล้วยสกุล Musa มีกลีบรวม ๖ กลีบ แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ กลีบรวมใหญ่ (Compound tepal) อยู่ชั้นนอก เกิดจากกลีบรวม ๕ กลีบ ติดกันเป็นแผ่น สีขาวหรือชมพูอมแดงปลายกลีบแบ่งเป็นแฉก ๆ อีกส่วนหนึ่งเป็นกลีบรวมอิสระ (free tepal) อยู่ชั้นใน ใส ไม่มีสี หรือสีม่วงเรื่อ ๆ สั้นกว่ากลีบรวมใหญ่ ปลายย่น เกสรเพศผู้ ๕ อัน อับเรณูสีขาวนวลหรือขาวนวลอมแดง เกสรเพศเมียสีขาวหรือขาวนวล รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มี ๓ พู มีออวุลเรียงกันอย่างมีระเบียบหรือกระจัดกระจายแล้วแต่ชนิด แต่ละช่อดอกประกอบด้วยดอกแยกเพศและดอกที่เป็นหมัน โคนช่อดอกเป็นดอกเพศเมีย ปลายช่อเป็นดอกเพศผู้และดอกที่เป็นหมัน ผลแบบผลมีเนื้อ รูปคล้ายทรงกระบอกกลมหรือมีเหลี่ยม เรียงเป็นระเบียบเป็นแถวเดียวหรือ ๒ แถว หรือเรียงกันไม่เป็นระเบียบ ส่วนใหญ่สุกสีเหลืองหรือแดงอมม่วงแต่ละผลมีก้าน โคนก้านติดกันเป็นแถวเรียกว่า หวี หวีออกเรียงลดหลั่นกันลงมาตามก้านช่อดอกรวมเรียกว่า เครือ จำนวนหวีจะมากหรือน้อยแล้วแต่ชนิด เมล็ดสีดำ ผนังหนา แข็ง
กล้วยสกุล Musa จำแนกเป็นหลายหมู่ (section) คือ
๑. Australimusa ได้แก่ กล้วยที่ใช้เส้นใยของลำต้นเทียม เช่น ป่านมะนิลา หรือที่เรียกว่า Abaca ซึ่งได้มาจาก Musa textilis Nees
๒. Callimusa ได้แก่ กล้วยประดับ เช่น รัตกัทลี (Musa coccinea Andr.) มีใบประดับสีแดงเข้ม
๓. Musa (Eumusa) ได้แก่ กล้วยป่า กล้วยตานี และกล้วยหก ผลของกล้วยพันธุ์ผสมบางชนิดกินได้
๔. Rhodochlamys ได้แก่ กล้วยประดับ คล้าย ๆ กับ Callimusa เช่น กล้วยบัวสีชมพู (Musa ornata Roxb.)