ข้าวบาร์เลย์เป็นไม้ล้มลุกปีเดียว ลำต้นตรง แตกกอ สูงได้ถึง ๑.๕ ม.
ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปแถบ กว้าง ๐.๕-๑๕ ซม. ยาว ๕-๔๐ ซม. ปลายเรียวแหลม กาบใบเกลี้ยง ลิ้นใบเป็นเยื่อบางยาว ๑-๓ มม. ปลายมีขนครุยสั้น ติ่งใบรูปเคียว
ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกที่ยอด ไม่รวมรยางค์ยาว ๒-๑๒ ซม. ช่อดอกย่อยไร้ก้าน ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๓ ช่อ เรียงสลับเป็น ๒ แถวหรือ ๖ แถว บนแกนกลางช่อดอก ช่อดอกย่อยกลุ่มที่เรียง ๒ แถว มีช่อดอกย่อยกลางสมบูรณ์ช่อเดียว ส่วนกลุ่มที่เรียง ๖ แถวนั้นสมบูรณ์ทุกช่อ กาบช่อดอกย่อยแคบ ยาว ๔.๕-๕.๕ มม. ปลายเป็นขนยาว ดอกย่อยมี ๑ ดอก กาบล่างรูปไข่ กว้างประมาณ ๓ มม. ยาว ๙-๑๑ มม. ปลายมีรยางค์ ยาวได้ถึง ๑๕ ซม. มีขนรูปตะขอ ในพันธุ์ปลูกบางพันธุ์ไม่มีรยางค์ เส้นตามยาวกาบมี ๕ เส้น กาบบนยาวเท่ากาบล่าง ด้านข้างพับเป็นสันตามยาว ไม่มีรยางค์ กลีบเกล็ด ๒ อัน เกสรเพศผู้ ๓ อัน รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มีขนที่ปลาย มี ๑ ช่อง ออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมีย ๒ เส้น สั้น ยอดเกสรเพศเมียยาว มีขนยาวนุ่มเป็นพู่
ผลเบบผลแห้งเมล็ดติด รูปรี ขนาดแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพันธุ์ปลูก ปลายมีขน มีร่องตามยาวและด้านตรงข้ามนูน ส่วนใหญ่มีกาบ ๒ กาบหุ้ม
ข้าวบาร์เลย์พันธุ์ปลูกทั่วไปมีหลากหลายนับร้อย ได้มีการจัดกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มพันธุ์ ๒ แถว กลุ่มพันธุ์ ๖ แถว และกลุ่มพันธุ์คละ ซึ่งช่อดอกย่อยเรียงมีทั้งแบบ ๒ แถว และ ๖ แถว ในช่อดอกเดียวกัน
ข้าวบาร์เลย์พันธุ์ ๒ แถว และ ๖ แถว เป็นพืชนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย ทางภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ช่วงการปลูกและเก็บเกี่ยว เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ในต่างประเทศข้าวบาร์เลย์มีถิ่นกำเนิดในตะวันออกกลาง ปลูกกัน ๗,๐๐๐ ปี ก่อนคริสต์กาล และแพร่กระจายพันธุ์ปลูกแทบทั่วโลกในเขตอบอุ่นและเขตร้อน
เมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่สีเอาเฉพาะเปลือกออกไป เรียก ข้าวกล้องบาร์เลย์ (pot barley, hulled barley หรือ Scotch barley) ซึ่งนำไปหุงต้มทำเป็นอาหารได้ แต่เสียเวลาในการหุงต้มนาน เมื่อสุกแล้วเหนียว มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หากนำข้าวกล้องไปขัดต่อจนผนังผลและเปลือกเมล็ดหลุดออกไป เรียกส่วนนี้ว่ารำ และได้ข้าวขาวบาร์เลย์ (pearl barley) มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่าข้าวกล้องบาร์เลย์ แต่นำไปประกอบอาหารได้ง่ายกว่า
ข้าวบาร์เลย์เป็นอาหารของมนุษย์และสัตว์ ประโยชน์ส่วนใหญ่ได้จากทำให้เป็นมอลต์ก่อน โดยนำเมล็ดไปเพาะ เมื่อมีรากและยอดอ่อนโผล่ออกมาแล้ว จึงนำไปอบหรือทำให้แห้ง แยกเอาส่วนที่เป็นรากและยอดอ่อนออก ซึ่งส่วนนี้นำไปเลี้ยงสัตว์ได้ เมล็ดเมื่องอกเป็นมอลต์มีรสหวานและหอม มีคุณค่าทางอาหาร ใช้ทำผลิตภัณฑ์อาหารได้หลายชนิด ทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ วิสกี้.