ไม้ล้มลุกหลายปีหรือกึ่งไม้พุ่ม ลำต้นตั้งขึ้น แตกกิ่ง เกลี้ยง ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปรีเบี้ยวถึงรูปใบหอก กลับเบี้ยว ดอกแยกเพศร่วมต้นหรือต่างต้น ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่นคล้ายจาน ออกตามซอกใบ มักแยกเป็น ๒ ซีก แต่ละซีกมีช่อกระจุกกลมหลายช่อ มีหลายดอก ดอกสีขาวใสหรือสีขาวอมเขียว ผลแบบผลแห้งเมล็ดล่อน รูปทรงรีหรือทรงรูปไข่ ค่อนข้างแบนเล็กน้อย ผนังบาง มีสันตามยาว ๘ สัน มีเมล็ด ๑ เมล็ด
ดิงคีเป็นไม้ล้มลุกหลายปีหรือกึ่งไม้พุ่ม สูง ๐.๖- ๒ ม. ลำต้นตั้งขึ้น แตกกิ่ง เกลี้ยง
ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปรีเบี้ยวถึงรูป ใบหอกกลับเบี้ยว กว้าง ๒-๗ ซม. ยาว ๕-๒๐ ซม. ปลาย เรียวแหลมถึงยาวคล้ายหาง โคนรูปลิ่มเบี้ยว ขอบเรียบ หรือหยักมนห่าง ๆ ประมาณ ๒ หยักบริเวณปลายใบ แผ่นใบค่อนข้างบาง ด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีขนเอน แนบโดยเฉพาะตามเส้นใบ มีผลึกหินปูนรูปแถบหรือรูป กระสวยหนาแน่น เห็นเด่นชัด ไม่มีใบขนาดเล็กที่เรียก ว่าใบแคระ (nanophylls) เส้นแขนงใบหลัก ๓ เส้น ไม่ สมมาตร ออกจากโคน ๑ เส้น เส้นแขนงใบที่เหลือออก เหนือโคนใบ ก้านใบยาว ๑.๕-๖ มม. อาจพบยาวได้ถึง ๑ ซม. หูใบรูปใบหอกแคบ กว้าง ๑.๕-๒ มม. ยาว ๐.๖- ๑ ซม. ร่วงง่าย มีผลึกหินปูน
ดอกแยกเพศร่วมต้นหรือต่างต้น ช่อดอกแบบ ช่อกระจุกแน่นคล้ายจาน ออกตามซอกใบ มักแยกเป็น ๒ ซีก แต่ละซีกมีช่อกระจุกกลมหลายช่อ มีหลายดอก มีใบประดับย่อย ๒-๓ ใบรองรับ ดอกสีขาวใสหรือสีขาว อมเขียว ช่อดอกเพศผู้ออกเดี่ยวหรือออกเป็นคู่ ไม่แตก แขนง กว้าง ๐.๖-๑.๒ ซม. ยาว ๑-๑.๘ ซม. ไร้ก้าน ใบประดับ ยาวประมาณ ๑ มม. เชื่อมกัน ใบประดับย่อยรูปเรือ ฐานดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ๔-๖ มม. ดอกเพศผู้ มีวงกลีบรวมเชื่อมติดกันที่โคน ปลายแยกเป็น ๔-๕ แฉก รูปรี มักมีติ่งคล้ายเขาสัตว์อยู่ต่ำกว่าปลายแฉกเล็กน้อย เกสรเพศผู้ ๔-๕ เกสร เรียงตรงข้ามกับแฉกกลีบรวม ก้านชูอับเรณูม้วนงอในดอกตูม มีรังไข่ที่ไม่เจริญขนาดเล็ก หรือไม่มี ช่อดอกเพศเมียออกเดี่ยวหรือออกเป็นคู่ มีเส้น ผ่านศูนย์กลาง ๕-๘ มม. ก้านช่อดอกยาวประมาณ ๑ มม. หรือไร้ก้าน ฐานดอกขนาดเล็กมาก ใบประดับรูปสามเหลี่ยม ใบประดับย่อยรูปแถบแคบ ดอกเพศเมียมีวงกลีบรวมเชื่อม ติดกันเล็กน้อยที่โคน ปลายแยกเป็น ๔-๕ แฉก ขนาด เกือบเท่ากัน ยาวประมาณครึ่งหนึ่งของความยาวรังไข่ ไม่มีติ่งคล้ายเขาสัตว์บริเวณปลายแฉก เกสรเพศผู้เป็น หมัน ๓-๕ เกสร รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปทรงรี ตรง มี ๑ ช่อง มีออวุล ๑ เม็ด ไม่มีก้านยอดเกสรเพศเมีย ยอด เกสรเพศเมียเป็นพู่คล้ายแปรงสั้น ๆ ร่วงง่าย
ผลแบบผลแห้งเมล็ดล่อน รูปทรงรีหรือทรงรูปไข่ ค่อนข้างแบนเล็กน้อย ผนังบาง มีสันตามยาว ๘ สัน มีเมล็ด ๑ เมล็ด
ดิงคีมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทาง ภาคตะวันตกเฉียงใต้ พบตามป่าดิบชื้น มักขึ้นตามริม ลำธาร ที่สูงจากระดับทะเล ๘๐๐-๑,๕๐๐ ม. ออกดอกและ เป็นผลเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ในต่างประเทศพบที่ อินเดีย เนปาล ภูฏาน เมียนมา จีน และอินโดนีเซีย.