ตาลกิ่งเป็นปาล์มลำต้นเดี่ยวหรือขึ้นเป็นกอ มี ๓-๕ ต้น โคนต้นชิดกันคล้ายแตกกิ่ง สูงได้ถึง ๖ ม. ลำต้นสีน้ำตาลเข้มถึงสีดำ เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น ๒๕-๓๐ ซม. เกลี้ยงหรือมีกาบใบเก่ารวมโคนก้านใบติดตามลำต้น มีขนสั้นหนานุ่มสีน้ำตาลและเกล็ดสีขาวอมเทาขนาดเล็กกระจายทั่วไปเกือบทุกส่วน
ใบเดี่ยว เรียงเวียน มี ๘-๑๕ ใบ รูปมือแกมขนนก ปลายแยกเป็นแฉกตามแนวรัศมีถึงกึ่งกลางใบ มี ๖๒-๗๙ แฉก แต่ละแฉกรูปใบหอก ขนาดไม่เท่ากัน แฉกช่วงกลางใบมีขนาดใหญ่กว่าแฉกอื่น ๆ กว้าง ๕-๘ ซม. ยาว ๐.๙-๑ ม. แฉกช่วงใกล้โคนและใกล้ปลายเส้นกลางใบกว้าง ๑.๕-๓ ซม. ยาว ๕๐-๗๐ ซม.
ดอกแยกเพศต่างต้น สีเขียวอมเหลือง ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง มี ๒-๓ ช่อ ออกตามซอกใบ ช่อดอกออกจากโคนสู่ยอดแล้วต้นไม่ตาย ช่อดอกเพศผู้ยาว ๐.๙-๑.๒ ม. ปลายห้อยลง มีช่อแขนงย่อยแบบช่อเชิงลด ๑-๘ ช่อ กว้าง ๑.๒-๑.๕ ซม. ยาว ๑๘-๒๓ ซม. มีใบประดับ ๗-๘ ใบ ติดทน ใบประดับขนาดใหญ่สุดอยู่ที่ช่อแขนงย่อยใกล้โคนช่อดอก ยาว ๓๐-๓๒ ซม. ช่อย่อยแบบช่องวงข้างเดียว แต่ละช่อมี ๓ ดอก กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น ๓ แฉก กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันคล้ายก้าน ปลายแยกเป็น ๓ แฉก แต่ละแฉกรูปไข่ เรียงจดกันในดอกตูม
ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง ทรงรูปไข่ถึงรูปทรงกลม กว้าง ๒.๕-๔ ซม. ยาว ๓-๖ ซม. ผนังผลชั้นนอกเรียบ มีช่องอากาศเป็นจุดกระจายทั่วไป ผนังผลชั้นกลางเป็นเส้นใย มักมีกลิ่นหอม ผนังผลชั้นในหนา ผลอ่อนสีเขียวอ่อน สุกสีน้ำตาลเข้ม มีกลีบเลี้ยงติดทนมีเมล็ด ๑ เมล็ด
ตาลกิ่งเป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดแถบเอธิโอเปีย โซมาเลีย เคนยา แทนซาเนีย แอฟริกาใต้ และเกาะมาดากัสการ์ ในประเทศไทยนำเข้ามาปลูกทั่วไปตามสวนสาธารณะหรือตามอาคารบ้านเรือน
ประโยชน์ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เส้นใยที่ได้จากใบสามารถใช้ในงานจักสาน ทำเชือก และทำหมวก ยอดอ่อนและแกนกลางลำต้นนำมารับประทานหรือทำเป็นไวน์ได้.