ไม้ต้นขนาดกลาง เปลือกสีดำ ค่อนข้างเรียบ ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปไข่หรือรูปขอบขนานถึงรูปใบหอก ดอกแยกเพศต่างต้น ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียแบบช่อกระจุกหรือช่อกระจุกเชิงประกอบ ออกตามซอก ใบหรือเหนือรอยแผลใบตามกิ่ง ดอกเพศเมียคล้ายดอกเพศผู้ แต่ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ช่อดอกอาจลดรูปเหลือ เป็นดอกเดี่ยว ๆ ทั้งดอกเพศผู้และเพศเมียสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ผลแบบผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด รูปทรงรี หรือรูปทรงค่อนข้างกลม กลีบเลี้ยงติดทนขยายใหญ่และหนามาก แข็งคล้ายไม้ เมล็ดรูปทรงรี แบนด้านข้าง มีเยื่อหุ้มเมล็ด
ดำตะโกเป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูงได้ถึง ๑๕ ม. เปลือกสีดำ ค่อนข้างเรียบ เปลือกในและกระพี้สีเหลือง อ่อน แก่นสีน้ำตาลแดง
ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปไข่หรือรูปขอบ ขนานถึงรูปใบหอก กว้าง ๔-๑๑ ซม. ยาว ๑๒-๓๕ ซม. ปลายแหลมถึงเรียวแหลม โคนมนหรือแหลม แผ่นใบ ค่อนข้างหนาถึงหนาคล้ายแผ่นหนัง ด้านบนเกลี้ยง ด้านล่าง มีขนหรืออาจเกลี้ยง เส้นแขนงใบข้างละ ๑๒-๑๘ เส้น เส้นใบโค้ง ปลายเส้นมักเชื่อมต่อกับเส้นถัดขึ้นไปใกล้ ขอบใบ มักเป็นร่องทางด้านบนและนูนทางด้านล่าง เส้นใบ ย่อยพอสังเกตเห็นได้ทางด้านล่าง ก้านใบยาวประมาณ ๑ ซม. เกลี้ยงหรือเกือบเกลี้ยง
ดอกแยกเพศต่างต้น ช่อดอกเพศผู้แบบช่อกระจุก หรือช่อกระจุกเชิงประกอบ ออกตามซอกใบหรือเหนือรอย แผลใบตามกิ่ง มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ ๔ กลีบ พบน้อยที่มี ๕ กลีบ ก้านดอกยาว ๑.๕-๒.๕ มม. มีขนนุ่ม กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดคล้ายรูประฆัง ปลาย แยกเป็นแฉกแหลม ๔ แฉก พบน้อยที่มี ๕ แฉก ด้านในมี ขนเป็นเส้นไหม และมีขนสั้นนุ่มทางด้านนอก กลีบดอก สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ยาว ๐.๘-๑.๒ ซม. โคนกลีบเชื่อม ติดกันเป็นหลอด ปลายหลอดแยกเป็น ๔ แฉก ด้านใน เกลี้ยง และมีขนนุ่มทางด้านนอก ดอกเพศผู้มีเกสรเพศผู้ ๑๔-๑๘ เกสร มีขนระหว่างพูอับเรณูตามยาว ก้านชูอับ เรณูเกลี้ยง รังไข่ที่เป็นหมันมีขนสั้นหนาแน่น ดอกเพศเมีย คล้ายดอกเพศผู้ แต่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ช่อดอกอาจ ลดรูปเหลือเป็นดอกเดี่ยว ๆ เกสรเพศผู้เป็นหมัน ๘ เกสร รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปทรงกลม มีขนกำมะหยี่ มี ๘ ช่อง แต่ละช่องมีออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียมี ๔ ก้าน มีขนคล้ายเส้นไหม และมีหนาแน่นตามอับเรณู ยอดเกสร เพศเมียเล็ก
ผลแบบผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด รูปทรงรี หรือรูปทรงค่อนข้างกลม โคนผลมน ปลายตัดหรือมน กว้าง ๑.๕-๓ ซม. ยาว ๒-๓ ซม. ผิวหนาและแข็งคล้ายไม้ กลีบเลี้ยงติดทนขยายใหญ่และหนามาก แข็งคล้ายไม้ แนบติดกับตัวผลและมีขนทั้ง ๒ ด้าน กลีบผายกว้าง และจีบเป็นรางไปสู่ก้านผล ๔-๕ ราง ก้านผลยาวไม่เกิน ๕ มม. เมล็ดรูปทรงรี แบนด้านข้าง มีเยื่อหุ้มเมล็ด
ดำตะโกมีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทย ทางภาคใต้ พบตามป่าดิบชื้น ที่สูงตั้งแต่ใกล้ระดับทะเล ถึงประมาณ ๒๐๐ ม. ส่วนมากออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ ถึงพฤษภาคม เป็นผลเดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน ในต่าง ประเทศพบที่อินเดีย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ประโยชน์ ผลดิบใช้เบื่อปลา เนื้อไม้ทำด้ามเครื่องมือ เกษตร ทำเสาบ้าน.