ไม้ล้มลุกปีเดียว ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงตรงข้าม ใบบนเรียงเวียน รูปรีแคบ มีใบย่อย ๙-๑๑ ใบ รูป ใบหอกแกมรูปขอบขนาน ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่น ออกที่ปลายยอด เรียงคล้ายช่อเชิงหลั่น วงใบประดับ รูปทรงกระบอก ปลายแยกเป็น ๕ แฉก มีต่อมน้ำมันรูปเลนส์ตามขอบ ดอกย่อยในช่อมี ๒ แบบ คือ ดอกย่อย วงนอกเป็นดอกเพศเมีย รูปลิ้น สีเหลือง และดอกย่อยวงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ สีเหลืองถึงสีเหลืองเข้ม ผลแบบ ผลแห้งเมล็ดล่อน รูปขอบขนานแคบ สีค่อนข้างดำ มีขนสากแนบตามสัน ที่ปลายมีกลีบเลี้ยงติดทนแบบแพปพัส ลักษณะเป็นเกล็ดประมาณ ๕ เกล็ด
ดาวเรืองเล็กเป็นไม้ล้มลุกปีเดียว ลำต้นตั้งตรง สูง ๐.๓-๒ ม. แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นค่อนข้างแข็ง เป็นสัน มีต่อม
ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงตรงข้าม ใบ บนเรียงเวียน รูปรีแคบ กว้าง ๕-๗ ซม. ยาว ๕.๕-๑๒ ซม. แกนกลางใบมีปีกแคบด้านข้าง มีใบย่อย ๙-๑๑ ใบ รูป ใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง ๑.๕-๙.๕ มม. ยาว ๑-๗ ซม. ปลายแหลม โคนสอบเรียว ขอบจักฟันเลื่อย มีต่อมกลม ที่โคนซี่ฟันแต่ละซี่ แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ เกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน ด้านล่างมีต่อมน้ำมัน เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบ ไม่เด่นชัด ก้านใบยาวได้ถึง ๔ ซม. มีปีกแคบด้านข้าง
ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่น ออกที่ปลายยอด เรียงคล้ายช่อเชิงหลั่น ก้านช่อยาว ๑-๖ มม. ปลายก้านช่อ ค่อนข้างขยายใหญ่ ช่อกระจุกเมื่อบานเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ ๑ ซม. ฐานดอกร่วมแบน วงใบประดับรูปทรง กระบอก กว้าง ๑.๕-๒ มม. สูงประมาณ ๑ ซม. ปลาย แยกเป็น ๕ แฉก มีต่อมน้ำมันรูปเลนส์ตามขอบ ดอก ย่อยในช่อมี ๒ แบบ คือ ดอกย่อยวงนอกเป็นดอกเพศ เมีย รูปลิ้น มี ๒-๓ ดอก กลีบเลี้ยงลดรูปเป็นเกล็ดบางใส ๕ เกล็ด กลีบดอกสีเหลือง โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว ๓.๒-๕ มม. มีขน ปลายเชื่อมติดกันแผ่เป็นแผ่น รูปไข่ กลับกว้าง กว้างประมาณ ๓ มม. ยาวประมาณ ๒.๒ มม. ปลายมักจักตื้นเป็น ๓ แฉก และดอกย่อยวงในเป็นดอก สมบูรณ์เพศ สีเหลืองถึงสีเหลืองเข้ม มี ๒-๓ ดอก กลีบ เลี้ยงลดรูปเป็นเกล็ดบางใส ๕ เกล็ด กลีบดอกโคนเชื่อม ติดกันเป็นหลอด ยาว ๔-๔.๕ มม. ปลายแยกเป็น ๕ แฉก เกสรเพศผู้ ๕ เกสร ก้านชูอับเรณูแยกเป็นอิสระ อับเรณู รูปขอบขนานแกมรูปรีติดกันทางด้านข้างและหุ้มก้าน ยอดเกสรเพศเมีย รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มี ๑ ช่อง มีออวุล ๑ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียเรียวยาว ยอดเกสรเพศเมีย แยกเป็น ๒ แฉก
ผลแบบผลแห้งเมล็ดล่อน รูปขอบขนานแคบ ยาว ๕-๗ มม. สีค่อนข้างดำ มีขนสากแนบตามสัน ที่ปลาย มีกลีบเลี้ยงติดทนแบบแพปพัสลักษณะเป็นเกล็ด ประมาณ ๕ เกล็ด รูปลิ่มแคบ มี ๒ เกล็ดที่เป็นรยางค์แข็ง ยาวได้ถึง ๓.๒ มม. นอกนั้นเล็กกว่า ยาว ๐.๕-๑.๕ มม.
ดาวเรืองเล็กเป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถิ่น กำเนิดในอเมริกาเขตร้อน นำเข้ามาปลูกเป็นไม้ประดับใน ประเทศไทย พบปลูกทั่วไปทางภาคเหนือ และแพร่พันธุ์ ได้เองตามริมฝั่งแม่น้ำและพื้นที่เกษตรกรรม ออกดอก เดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม เป็นผลเดือนพฤศจิกายน ถึงมีนาคม
ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ.