ตาปลาตะวันออก

Derris pseudomarginata Sirich.

ชื่ออื่น ๆ
หางไหลบูรพา (ทั่วไป)
ไม้เถาเนื้อแข็ง เปลือกสีเทา สีน้ำตาลอ่อน หรือสีน้ำตาลอ่อนแกมสีเทา ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงเวียน มีใบย่อย ๕-๗ ใบ เรียงตรงข้าม รูปไข่ รูปรี หรือรูปไข่กลับ ปลายค่อนข้างเรียวแหลม หูใบรูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่ ช่อดอกคล้ายช่อกระจะหรือคล้ายช่อแยกแขนง ออกตามซอกใบหรือที่ปลายกิ่ง ดอกรูปดอกถั่ว สีขาว เกสรเพศผู้เชื่อมติดกันเป็นกลุ่มเดียว ผลแบบผลแห้งไม่แตก รูปขอบขนานหรือรูปรีแคบ เป็นฝักแบน สีเขียวอ่อนแล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนเมื่อแห้ง มีปีกที่ขอบทั้ง ๒ ข้าง เมล็ดรูปทรงกลมรี คล้ายรูปจาน หรือรูปไต มี ๑-๒ เมล็ด

ตาปลาตะวันออกเป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ลำต้นมักเลื้อยพันไปบนต้นไม้สูงจนถึงระดับเรือนยอด เปลือกลำต้นบาง เรียบ สีเทา สีน้ำตาลอ่อน หรือสีน้ำตาลอ่อนแกมสีเทา ตามกิ่งมีช่องอากาศกระจายทั่วไป

 ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงเวียน มีใบย่อย ๕-๗ ใบ เรียงตรงข้าม รูปไข่ รูปรี หรือรูปไข่กลับ กว้าง ๒.๓-๕.๕ ซม. ยาว ๔.๕-๑๒ ซม. ปลายค่อนข้างเรียวแหลม โคนมน ขอบเรียบ แผ่นใบกึ่งหนาคล้ายแผ่นหนัง เกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน เส้นแขนงใบข้างละ ๖-๙ เส้น เส้นใบย่อยแบบร่างแห ก้านใบยาว ๔-๖ ซม. เป็นร่องตามยาวทางด้านบน ก้านใบย่อยยาว ๐.๗-๑ ซม. แกนกลางใบยาว ๕-๘ ซม. หูใบรูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่ ไม่พบหูใบย่อย

 ช่อดอกคล้ายช่อกระจะหรือคล้ายช่อแยกแขนง ออกตามซอกใบหรือที่ปลายกิ่ง ยาว ๕-๑๘ ซม. ก้านช่อดอกยาว ๑-๕ ซม. แขนงช่อดอกยาว ๔.๕-๑๕ ซม. ทั้งแกนกลางและแขนงช่อดอกเกลี้ยงหรือมีขนประปราย ใบประดับรองรับช่อดอกรูปไข่หรือรูปสามเหลี่ยม ร่วงง่าย กิ่งงันบนช่อดอกมีลักษณะเป็นปุ่มปมถึงมีรูปเป็นทรงกระบอก ยาว ๐.๓-๓ มม. บางครั้งมีขนาดเล็ก เห็นไม่ชัด มี ๒-๓ ดอก พบบ้างที่มีได้ถึง ๕ ดอก กระจายไปตลอดความยาวของกิ่งงัน ใบประดับรองกิ่งงันรูปไข่หรือรูปสามเหลี่ยม กว้าง ๐.๕-๐.๗ มม. ยาว ๐.๗-๐.๘ มม. ด้านนอกมีขนประปราย ด้านในเกลี้ยง ใบประดับรองรับดอกรูปไข่ กว้าง ๐.๔-๐.๖ มม. ยาว ๐.๖-๐.๘ มม. ด้านนอกเกลี้ยงหรือมีขนประปราย ด้านในเกลี้ยง ก้านดอกยาว ๓-๕.๕ มม. มีขนประปราย ใบประดับย่อยอยู่บริเวณปลายสุดของก้านดอกติดกับกลีบเลี้ยง รูปไข่ กว้างประมาณ ๐.๔ มม. ยาวประมาณ ๐.๖ มม. ด้านนอกเกลี้ยงหรือมีขนประปราย ด้านในเกลี้ยง ดอกรูปดอกถั่ว สีขาว กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ยาว ๒.๕-๓.๕ มม. สีออกแดงเข้ม ด้านนอกมีขนคล้ายไหมประปราย ด้านในเกลี้ยงยกเว้นบริเวณใกล้แฉกกลีบเลี้ยงที่มีขนประปราย ปลายแยกเป็น ๕ แฉก แยกเป็นด้านบน ๒ แฉก ด้านข้าง ๒ แฉก และด้านล่าง ๑ แฉก รูปสามเหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมสั้น ยาว ๐.๒-๐.๕ มม.



กลีบดอก ๕ กลีบ กลีบกลางสีขาว บริเวณกลางกลีบสีเขียวอ่อน รูปไข่กลับกว้างหรือรูปวงกลม กว้างและยาว ๔.๕-๕.๕ มม. ปลายหยักเว้าตื้น โคนกลีบไม่มีรอยด้าน เกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน ก้านกลีบยาว ๓-๓.๕ มม. กลีบคู่ข้างรูปรี กว้าง ๑.๕-๑.๗ มม. ยาว ๔-๔.๕ มม. ปลายกลีบมน มีติ่งกลีบด้านบนยาว ๐.๗-๐.๘ มม. เกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน ก้านกลีบยาว ๓-๓.๕ มม. กลีบคู่ล่างรูปเรือ กว้าง ๑.๖-๒ มม. ยาว ๔.๗-๕ มม. ปลายมน ติ่งกลีบด้านบนเห็นไม่ชัด เกลี้ยงทั้ง ๒ ด้าน หรือบางครั้งมีขนประปรายบริเวณปลายกลีบคู่ล่าง ก้านกลีบยาว ๒.๗-๓ มม. เกสรเพศผู้ ๑๐ เกสร โคนเชื่อมติดกันเป็นกลุ่มเดียว ยาว ๖.๕-๘ มม. ส่วนปลายที่แยกยาว ๒-๒.๕ มม. เกลี้ยง อับเรณูกว้างประมาณ ๐.๓ มม. ยาว ๐.๓-๐.๕ มม. เกลี้ยง จานฐานดอกรูปวงแหวน บางครั้งขอบหยักเป็นพู ๑๐ พู พบบ้างที่มี ๕ พู หนาได้ถึง ๐.๒ มม. รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ยาว ๗-๘ มม. มีขนคล้ายไหมประปราย มี ๑ ช่อง มีออวุล ๓-๔ เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียยาว ๓-๔ มม. โคนมีขนประปราย ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม

 ผลแบบผลแห้งไม่แตก รูปขอบขนานหรือรูปรีแคบ เป็นฝักแบน กว้าง ๒.๕-๓.๗ ซม. ยาว ๓.๓-๘ ซม. มีปีกที่ขอบทั้ง ๒ ข้าง ปีกกว้าง ๒-๘ มม. เกลี้ยง เมล็ดรูปทรงรี คล้ายรูปจาน หรือรูปไต กว้าง ๑.๓-๑.๔ ซม. ยาว ๑.๕-๑.๗ ซม. หนา ๐.๕-๑ มม. มี ๑-๒ เมล็ด ขั้วเมล็ดอยู่บริเวณกลางของเมล็ดหรือถัดมาเล็กน้อย ยาวประมาณ ๒ มม.

 ตาปลาตะวันออกเป็นพรรณไม้ถิ่นเดียวของไทย มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคตะวันออกเฉียงใต้และภาคใต้ พบตามป่าดิบชื้นหรือป่าดิบแล้ง ที่สูงตั้งแต่ใกล้ระดับทะเลปานกลางจนถึงประมาณ ๓๐๐ ม. ออกดอกเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน เป็นผลเดือนกันยายนถึงมกราคมของปีถัดไป

 หมายเหตุ ยังไม่มีรายงานการใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้แต่จากคำบอกเล่าของคนในท้องถิ่นพบว่ามีการใช้เถาเป็นยาฆ่าแมลงและเบื่อปลา.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ตาปลาตะวันออก
ชื่อวิทยาศาสตร์
Derris pseudomarginata Sirich.
ชื่อสกุล
Derris
คำระบุชนิด
pseudomarginata
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Sirichamorn, Yotsawate
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (fl. 2012)
ชื่ออื่น ๆ
หางไหลบูรพา (ทั่วไป)
ผู้เขียนคำอธิบาย
ผศ. ดร.ยศเวท สิริจามร