กระต่ายขูด-ปลา

Pomadasys maculatum (Bloch)

ชื่อวิทยาศาสตร์
Pomadasys maculatum (Bloch) วงศ์ Pomadasyidae
ชื่ออื่น ๆ
ปลาสีกรุด, ปลากะทิขูด, ปลาหัวขวาน, ปลามโหรี
ชื่อสามัญ
Spotted Grunt

ลักษณะทั่วไป เป็นปลาน้ำเค็มกระดูกแข็ง ความยาวตลอดตัวประมาณ ๔๐ เซนติเมตร ในน่านน้ำไทยพบขนาด ๑๕-๒๕ เซนติเมตร ลำตัวแบนข้าง คล้ายปลากะพงตาโตอยู่ค่อนไปทางด้านหน้าเยื้องไปทางด้านบน ปากเล็กอยู่ปลายสุดของหัว ขากรรไกรบนยาวกว่าขากรรไกรล่าง มีฟัน เล็กละเอียดรูปกรวย มีรูจมูก ๒ คู่ ขอบหลังของกระดูกแผ่นปิดเหงือกชิ้นหน้าหยักเป็นหนาม กระดูกแผ่นปิดเหงือกชิ้นหลัง (opercle) ยาวถึงโคนครีบอกและขอบหลังเรียบ ปลายคางเกือบหน้าสุดมีรูเล็ก ๆ ๒ รู เกล็ดค่อนข้างแข็งและหลุดยาก ขอบหลังของเกล็ดเป็นหยักคล้ายคลื่น เกล็ดตามเส้นข้างตัวมี ๔๔-๕๓ เกล็ด เกล็ดระหว่างเส้นข้างตัวถึงครีบหลังตอนกลาง ๆ มี ๖ เกล็ด ครีบหลังยาวเกือบจดโคนครีบหาง มี ๒ ตอน ตอนหน้าเป็นก้านครีบแข็งมี ๑๒-๑๓ ก้าน ตอนหลังเป็นก้านครีบอ่อน ๑๓-๑๔ ก้าน ครีบอกยาวเกือบถึงรูก้น มีก้านครีบอ่อน ๑๖ ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง ๓ ก้าน ก้านที่ ๒ ยาวกว่าก้านที่ ๓ และมีก้านครีบอ่อน ๗ ก้าน ครีบหางเว้าตื้น เกือบ ตัดตรง ลำตัวด้านหลังสีเทา ด้านท้องสีขาวเงิน มีแถบสีน้ำตาลไหม้พาดเฉียงจากสันหลังถึงประมาณ กลางลำตัว ๔-๕ แถบ แถบแรกอยู่ด้านหน้าของครีบหลัง แถบที่ ๒ ล้ำเข้าไปในครีบหลัง อยู่ประมาณกลางของครีบหลังตอนหน้า แถบที่ ๓ อยู่ประมาณท้ายของครีบหลังตอนแรก แถบที่ ๔ อยู่ประมาณกลางของครีบหลังตอนท้าย แถบที่ ๕ อยู่ท้ายของครีบหลังตอนท้าย ครีบทุกครีบสีเหลือง อ่อน ๆ ครีบหลังและครีบหางมีขอบสีดำ
     ปลากระต่ายขูดอาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลและตามบริเวณที่มีกองหิน เมื่อถูกจับพ่นน้ำจะส่งเสียงร้องดังครึด ๆ คล้ายเสียงขูดมะพร้าว พบในอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน ในต่างประเทศพบตั้งแต่ทะเลแดงถึงชายฝั่งของประเทศจีน เกาะไต้หวัน และรัฐควีนส์แลนด์ของประเทศออสเตรเลีย
     ปลากระต่ายขูดเนื้อค่อนข้างแข็ง นิยมนำมาปรุงแกงส้มและแกงเหลือง.

ชื่อหลัก
กระต่ายขูด-ปลา
ชื่อวิทยาศาสตร์
Pomadasys maculatum (Bloch)
ชื่อสกุล
Pomadasys
ชื่อชนิด
maculatum
ชื่อผู้ตั้งชื่อชนิดสัตว์
(Bloch)
ชื่อวงศ์
Pomadasyidae
ชื่ออื่น ๆ
ปลาสีกรุด, ปลากะทิขูด, ปลาหัวขวาน, ปลามโหรี
ชื่อสามัญ
Spotted Grunt
ผู้เขียนคำอธิบาย
ผศ.เฉลิมวิไล ชื่นศรี
คำสำคัญ
-
แหล่งอ้างอิง
อนุกรมวิธานสัตว์ อักษร ก กองวิทยาศาสตร์ อนุกรมสัตว์ ก.1.pdf