ลักษณะทั่วไป เป็นนกจำพวกนกกระทา วัดจากปลายปากถึงปลายหางยาวประมาณ ๒๖ เซนติเมตร ปากสั้นหนาปลายแหลม ลำตัวอ้วนป้อมสีเขียว ปีกสีน้ำตาล หางสั้น ขาสีแดงไม่มีเดือย และนิ้วตีนหลังไม่มีเล็บ ตัวผู้มีหงอนเป็นพู่ขนตรงสีน้ำตาลแดงตั้งเอนไปข้างหลังเล็กน้อย นอกเหนือ จากเส้นขนสีดำยาวตรงโคนปากบน ๕-๑๐ เส้น ด้านหน้าของฐานหงอนมีสีขาวพาดผ่านขวางหัว หนังรอบตาสีแดงป้ายไปทางหางตา ยาวประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร มองเห็นได้ชัด ลำตัวตอนบน สีเขียวเข้ม ตอนล่างสีเขียวเหลือบน้ำเงิน ตัวเมียมีแต่ขนสีดำยาวตรงโคนปากบนไม่มีหงอนเป็นพู่ขน และหนังรอบตาเป็นวงแถบเล็ก ๆ สีแดงไม่ป้ายไปทางหางตาเหมือนของตัวผู้
ไก่จุกอยู่ในป่าโล่ง มีพุ่มไม้ ป่าไผ่ มักอยู่รวมกันเป็นฝูง ฝูงละ ๗-๑๕ ตัว ช่วยกันคุ้ยเขี่ยหาอาหาร กินแมลง ตัวหนอน และผลไม้สุก
ในฤดูผสมพันธุ์ ไก่จุกจะจับคู่เป็นคู่ ๆ ตัวเมียสร้างรังมีหลังคาด้วยเศษไม้และใบไม้ ทางเข้าอยู่ด้านหน้า วางไข่คราวละ ๔ ฟอง ไข่สีเหลืองนวล ใช้เวลาฟักประมาณ ๑๘ วัน ตัวเมียกกไข่และเลี้ยงดูลูกอ่อนโดยตัวผู้จะไม่ช่วยเหลือเลย ระหว่างอายุ ๑-๓ วันลูกนกจะกินอาหารจากปากของแม่ อายุ ๕ วันสามารถคุ้ยเขี่ยหาอาหารจากพื้นดินได้ อายุ ๑๐ วันเริ่มกระพือปีก หัดบิน และจะบิน ขึ้นไปเกาะกิ่งไม้ได้เมื่ออายุประมาณ ๒๕ วัน ในระหว่างนี้แม่จะนำลูกเข้ารังในเวลาเย็นและใช้เศษไม้ปิดประตูรังทุกครั้ง อายุประมาณ ๑ เดือนสามารถแยกเพศได้โดยตัวผู้จะเริ่มมีหงอนเป็นพู่ ขนบนหัว
ในประเทศไทยพบไก่จุกเฉพาะทางภาคใต้ นอกจากนี้ยังพบในประเทศมาเลเซีย เกาะสุมาตรา และบอร์เนียวตะวันตก
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย.