ลักษณะทั่วไป เป็นนกที่มีตั้งแต่ขนาดเล็ก วัดจากปลายปากถึงปลายหางยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร ไปจนถึงขนาดใหญ่ ยาวประมาณ ๓๕ เซนติเมตร นกในกลุ่มนี้ลำตัวมีสีสันหลากหลายโดยอาจมี ๕ ถึง ๑๐ สีในตัวเดียวกัน จึงได้ชื่อว่าเป็นนกกลุ่มหนึ่งที่มีสีสันสวยงามที่สุดในโลก ตัวผู้มีสีสด เช่น แดง เหลือง ม่วง เขียว น้ำตาล ส้ม ตัวเมียส่วนใหญ่เป็นสีน้ำตาลมอ ๆ นอกจาก สีสันที่แปลกตาแล้ว ตัวผู้จะมีรูปลักษณะของขนแตกต่างกันมาก อาจมีขนพิเศษที่บริเวณหัว ใต้คอ หลัง ลำตัว หรือหาง บางชนิดมีขนเป็นเส้นยาวคล้ายริบบิ้นซึ่งในบางชนิดขนนี้อาจยาวถึง ๙๐ เซนติเมตร
ขนพิเศษเหล่านี้ใช้ในการแสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีเพื่อดึงดูดความสนใจจากตัวเมีย การ ที่ขนของนกการเวกแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกัน จึงเป็นวิธีการทางธรรมชาติที่ช่วยให้นกแต่ละชนิดจดจำกันได้และไม่ผสมข้ามพันธุ์ ทำให้สามารถรักษาพันธุ์แท้ไว้ได้
นกการเวกบางชนิดอาศัยอยู่ตามต้นไม้สูง ๆ บางชนิดลงอาบน้ำตามชายทะเลและแหล่งน้ำจืดในป่า กินทั้งพืชและสัตว์ เช่น ผลไม้ สัตว์เล็ก ๆ แมลง เป็นนกประเภทสวยงาม ไม่ใช่นกเลี้ยงหรือนกร้อง หลายชนิดมีเสียงห้าวดัง บางชนิดหากได้ยินในป่าสูงจะทำให้เกิดความสะพรึงกลัวหรือว้าเหว่ ต่างจากนกการเวกในวรรณคดี ซึ่งกล่าวกันว่ามีเสียงไพเราะจับใจ
ทั่วโลกมีนกการเวกอยู่ไม่ต่ำกว่า ๔๓ ชนิด ส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่าที่ราบต่ำไปจนถึงป่าบนภูเขาในบริเวณเกาะนิวกินีและหมู่เกาะใกล้เคียงของประเทศอินโดนีเซีย ที่อาศัยตามป่าบนภูเขาทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลียพบ ๔ ชนิด ที่รู้จักกันมากที่สุดคือชนิด Paradisaea apoda Linn. ซึ่งมีชื่อสามัญว่า Greater Bird of Paradise เคยมีผู้นำนกการเวกหลายชนิดมาเลี้ยงในประเทศไทย ก็สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ดีเพราะสภาพถิ่นธรรมชาติไม่แตกต่างกันนัก แต่จะต้องจัดที่เลี้ยงให้มีสภาพเป็นป่า เพราะนกการเวกเป็นนกป่าโดยแท้.