ลักษณะทั่วไป เป็นงูทะเล โตเต็มวัยยาวประมาณ ๗๐ เซนติเมตร หัวป้อมโต ตาเล็ก ลำตัว ค่อนข้างแบนข้าง หางแข็งแบนคล้ายใบพาย เกล็ดลำตัวมีลักษณะกลมเรียงต่อกัน ไม่ซ้อนกันเหมือนงูบก เกล็ดใต้ท้องเล็กเป็นแนวแคบ เพราะไม่ต้องใช้ในการเลื้อย
งูกะรังหัวโตเป็นงูพิษที่มีฤทธิ์ของพิษร้ายแรง แต่ไม่ค่อยปรากฏว่ามีผู้ถูกกัด เพราะงูชนิดนี้มักพบตามแนวปะการังในทะเล และมีนิสัยไม่ดุ เมื่อถูกรบกวนก็จะว่ายหนีเข้าซ่อนตัวตามใต้ซอกหิน หรือกอพืชทะเล เมื่อถูกจับขึ้นบกโดยบังเอิญ เช่น ติดขึ้นมากับเครื่องมือทำประมงทะเล ก็จะมีอาการอ่อนเปลี้ยและตายง่าย
งูกะรังหัวโตมีเขี้ยวพิษเล็กและมีกะโหลกแบบกลุ่มงูเขี้ยวหน้า (Proteroglypha) พื้นตัวสีขาวหม่น ตัวลายเป็นปล้องสีเทาอ่อนหรือเขียวอมเทา บริเวณกลางสันหลังของแต่ละปล้องมีขนาดใหญ่แล้วค่อย ๆ เรียวเล็กลงตรงข้างลำตัว ถ้าปล้องสีเทาอ่อน หัวและหางจะเป็นสีเทาเข้ม ปล้องสีเขียวอมเทา หัวและหางเป็นสีเทาเข้มอมเขียว เคยพบบางตัวไม่มีลายปล้อง แต่มีปื้นตอนกลางสันหลังถึงใกล้สีข้าง ยาวตั้งแต่หัวจดหาง ใต้ท้องสีขาวหม่น
งูกะรังหัวโตอยู่ในทะเลตลอดชีวิต ไม่ขึ้นบก มักอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลมากกว่าลอยตัวว่ายน้ำตามผิวน้ำ พบทั้งบริเวณทะเลน้ำใสและทะเลโคลน กินปลาและกุ้ง ออกลูกเป็นตัวคราวละ ๗-๑๐ ตัว ลูกแรกเกิดมีลายเหมือนเมื่อโตเต็มวัย แต่สีจะเข้มกว่า
น้ำพิษของงูกะรังหัวโตสีเหลืองอ่อน มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท ออกฤทธิ์ต่อผู้ถูกกัดอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากเขี้ยวพิษเล็กและสั้น จึงมีปฏิกิริยาเริ่มแรกต่อเยื่อหุ้มของเซลล์กล้ามเนื้อก่อน จนถึงมีอาการทางไต ผู้ถูกกัดจะไม่ปรากฏแผลชัดเจน มีเพียงรอยเจาะเล็ก ๆ ของเขี้ยวพิษคล้ายหนามตำ มักไม่มีอาการปวดบวม แต่จะเริ่มรู้สึกปวดขัดตามกล้ามเนื้อหลังถูกกัดประมาณครึ่งชั่วโมง และมีอาการอัมพาตเกิดขึ้นได้หลังถูกกัดประมาณ ๒ ชั่วโมง หากไม่ได้รับการรักษาอาจเสียชีวิตภายใน ๒๔ ชั่วโมง.